(15 ต.ค.63) เมื่อดึก พล.ต.ต.ปิยะ ตะวิชัย รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. ร่วมแถลงถึงสถานการณ์การชุมนุมที่แยกราชประสงค์ พร้อมโชว์ภาพถ่ายหลักฐานทำลายทรัพย์สิน โดย พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า วันนี้ตำรวจใช้กำลัง 15 กองร้อย หรือ 2,325 นาย ในการดูแลความเรียบร้อยการชุมนุม ถือว่าสามารถดูแลการชุมให้ผ่านไปได้ด้วยดีไม่เกิดการวุ่นวายหรือกระทบกระทั่ง ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ฝากถึงประชาชนที่มาร่วมชุมนุมว่า ขอให้คิดให้รอบคอบ เนื่องจากหากมีการกระทำความผิดและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจะมีประวัติติดตัว มีผลกระทบต่อไปในอนาคต โดยประชาชนที่จะนำรถบรรทุกน้ำ อาหาร รถขยายเสียงเข้ามาในพื้นที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.)
พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุว่า แกนนำที่ถูกควบคุมตัวยังอยู่รวมถึงแนวร่วมที่มีความผิดซึ่งหน้าจะถูกส่งตัวไปฝากขังดำเนินคดีต่อไป ส่วนกรณีที่มีรายงานว่านายภานุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ถูกตำรวจควบคุมตัวนั้น ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ ส่วนการชุมนุมวันนี้ถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสถานการณ์ร้ายแรง ตำรวจมีการประกาศเตือน และทราบแล้วว่าเรื่องใดสามารถทำหรือทำไม่ได้ หากมีใครฝ่าฝืนทางพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ชุมนุมบางส่วนได้พังกำแพง sky walk ทางเชื่อมระหว่างห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โรงพยาบาลตำรวจ มุ่งหน้าบีทีเอสสยาม การกระทำดังกล่าวถือว่ามีความผิด ทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันทำให้ทรัพย์สินเสียหาย
รองโฆษก ระบุอีกว่า ทั้งนี้ยังมีผู้ชุมนุมนำกระดาษไปติดกล้องวงจรปิดอีกด้วย จึงมองว่า อันนี้หรือที่บอกว่าการชุมนุมโดยสงบ การกระทำความผิดนี้หากทำผิดไปแล้วไม่ว่าแบบใดก็ตาม ขอให้ประชาชนศึกษาข้อมูลมาให้ดีๆ เพราะหากถูกดำเนินคดีไปแล้วไม่สามารถย้อนกลับได้ ขอให้ไปศึกษาแกนนำหรือผู้ชุมนุมที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้า ส่วนกรณีผู้ชุมนุมกดดันให้มีการปล่อยตัวแกนนำที่ถูกจับกุมนั้น ยืนยันว่าต้องดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นเป็นตอนของกฎหมาย เพราะหากไม่ได้กระทำผิดก็จะไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องว่าไปตามกระบวนยุติธรรม
เครดิต https://www.dailynews.co.th/politics/801300