1.น้องออเก้า (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี เป็นสาวประเภทสองที่มีความฝันอยากเป็นผู้หญิงจริงๆ จึงทำงานเก็บเงินจนพอที่จะสามารถแปลงเพศได้
2.น้องออเก้าได้ไปโรงพยาบาลตกแต่งศัลยกรรมแห่งหนึ่ง ย่านสาธุประดิษฐ์ เนื่องจากดูจากเพจมีความน่าเชื่อถือและมีการโฆษณาว่าสามารถทำออกมาได้สวยและลึกมากกว่า 6 นิ้ว
3.ถึงแม้ว่าราคาจะแพงกว่าที่อื่น น้องออเก้าก็ยังเลือกที่จะทำที่โรงพยาบาลแห่งนี้เพราะเชื่อว่าราคาแพงต้องออกมาดีอย่างแน่นอน
4.ก่อนทำการผ่าตัด มีการตรวจร่างกายตามปกติ มีการชำระค่าบริการประมาณ 160,000 บาท ซึ่งตามจริงราคาโปรโมชั่นคือ 170,000 บาท แต่ทางโรงพยาบาลมีส่วนลดให้
5.หลังเข้าแปลงเพศ น้องออเก้าได้พักฟื้นประมาณ 5 เดือน ตลอดการพักฟื้น ตนมีการเข้าพบแพทย์อยู่ตลอด
6.หลังจากที่ผ่าตัด สาวประเภทสองทุกคนจะรู้ว่าต้องหมั่นดูให้ดี ต้องมีการไดเร็คหรือที่รู้จักกันในชื่อ “แยงโม” เพื่อไม่ให้อวัยวะเพศที่แปลงมามันตื้นขึ้น
7.น้องออเก้าได้ทำการ “แยงโม” ครั้งแรกก็พบว่าสามารถไดเร็คได้แค่ 3 นิ้ว เท่านั้น จึงไปปรึกษาแพทย์ที่ทำ ก็ได้รับคำตอบว่าต้องหมั่นไดเร็คไปเรื่อยๆมันจะดีเอง
8.ตอนนี้ผ่านมา 1 ปี 3 เดือน อวัยวะเพศที่แปลงมากลับมีความลึกเท่าเดิม และสภาพออกมาไม่ได้สวยงามตามที่ได้โฆษณาไว้
9.ตอนนี้มันน่ากลัวมาก เพราะนอกจากกะใช้งานไม่ได้ แผลที่ผ่ามาก็มีกลิ่น น้ำเหลืองไหลจนเกือบเน่า
10.น้องออเก้าได้ติดต่อทางแพทย์ไปอีกหลายครั้งแต่ก็ได้รับคำตอบว่าถ้าจะแก้ไขต้องผ่าตัดต่อลำไส้และต้องเสียเงินเพิ่มอีก 190,000 บาท
11.น้องออเก้า มองว่าในเมื่อตนเสียเงินราคาแพงในการแปลงเพศ ทำไมตนต้องมาเสียเงินในการแก้ไข จึงตัดสินใจเข้าร้องทนายรณรงค์ เพื่อให้ช่วยเหลือ
12.ตอนนี้น้องออเก้า ไม่ต้องการให้โรงพยาบาลมารับผิดชอบแก้ไขอะไรแล้ว แต่อยากได้เงินที่เสียคืน เพราะต่อให้โรงพยาบาลมารับผิดชอบผ่าตัดแก้ไขให้ตนก็ไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะความมั่นใจที่มีต่อโรงพยาบาลมันเหลือศูนย์ไปแล้ว
13.น้องออเก้า ยังได้รับผลกระทบในด้านอื่นๆ ก่อนหน้านี้มีแฟนอยู่ด้วยกันใช้ชีวิตกิจกรรมทุกอย่างราบรื่น แต่หลังจากไปแปลงเพศ มันทำให้เราห่างมากขึ้น ไม่สามารถทำกิจกรรมได้เหมือนเดิม งานการก็ไม่ได้ทำ แต่ที่สำคัญคือสภาพจิตใจของตนตอนนี้มันไม่เหลือความมั่นใจเลย มันแย่มากๆ จนครั้งหนึ่งเคยตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่ทางแม่และครอบครัวคอยให้กำลังใจ จึงผ่านจุดนั้นมาได้ การที่สาวประเภทสองคนหนึ่งต้องการเป็นผู้หญิงจริง แต่กลับมาเจอเรื่องแบบนี้มันทำให้น้องออเก้าเสียใจมากจริง
14.วันที่ 23 กรกฎาคม 2563 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย น้องออเก้าได้เดินทางยื่นเรื่องถึงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้ช่วยดำเนินการไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหาย
15.พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค ด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องจะนำเอกสารไปตรวจสอบว่าเรื่องร้องเรียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรและมีหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้อง ถ้าหากเป็นการโฆษณาเกินจริงจะส่งเรื่องไปยังกองโฆษณา เพื่อเรียกสถานพยาบาลดังกล่าวเข้ามาชี้แจงและสอบปากคำ นอกจากนี้ถ้าพบความผิดชัดเจนจะเรียกทั้งสองมาพูดคุยและไกล่เกลี่ยชดเชยค่าเสียหายและหลังจากนี้จะตรวจสอบลึกลงไปอีกว่าได้มีการขออนุญาตตั้งสถานพยาบาลอย่างถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องจะส่งเรื่องไปยังกรมสนับสนุนทางการแพทย์ ส่วนแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดถ้าพบความผิดจะแจ้งให้แพทย์สภาตรวจสอบต่อไป
16.ทนายรณรงค์ กล่าวว่า นอกจากน้องออเก้า แล้วยังมีผู้เสียหายที่รับการบริการประเภทผ่าตัดแบบกรณีของน้องออเก้าอีก 3 ราย มีปัญหาหลังผ่าตัด ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมแจ้งความเอาผิดสถานประกอบการแห่งนี้ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. และ ร้องเรียนด้านสาธารณสุขต่อ สบส. ต่อไปด้วย