รถถัง จิตรเมืองนนท์ เปิดใจประเด็นดราม่าถูกด่านำเงินบาปบริจาคผู้ยากไร้และเส้นทางชีวิตหลังสังเวียน

ข่าวกีฬา

“ดิไอรอนแมน” รถถัง จิตรเมืองนนท์ นักชกขวัญใจชาวไทย อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ได้เปิดใจผ่านรายการของ DJภูมิ เกี่ยวกับประเด็นดราม่าที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์หลังจากประกาศนำเงินรางวัลไปบริจาคให้ผู้ยากไร้ชาวมุสลิม รวมถึงชี้แจงเรื่องครอบครัวที่มีสมาชิกจำนวนมาก และเปิดเผยแผนอนาคตในการเปิดค่ายมวยของตัวเอง

ความสำเร็จล่าสุดบนเวทีระดับโลก

ย้อนกลับไปในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รถถัง จิตรเมืองนนท์ สร้างความประทับใจให้แฟนกีฬาชาวไทยและทั่วโลกด้วยการเอาชนะน็อก ทาเครุ เซกาวา ซุปเปอร์สตาร์ชาวญี่ปุ่น ในยกแรกของการแข่งขันศึก ONE 172 ภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง ณ ประเทศญี่ปุ่น ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้กับนักมวยไทย แต่ยังมาพร้อมกับรางวัลที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยมีการยืนยันว่า รถถัง ได้รับค่าตัวสูงถึง 15 ล้านบาท พร้อมโบนัสชนะน็อกอีก 1.7 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 16.7 ล้านบาท นับเป็นนักมวยไทยที่ได้รับค่าตัวจากองค์กร ONE Championship มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

เปิดใจประเด็นดราม่า “เงินบาปบริจาคผู้ยากไร้”

หลังจากประสบความสำเร็จในไฟต์สำคัญ รถถังได้ประกาศว่าจะนำเงินรางวัลส่วนหนึ่งไปบริจาคช่วยเหลือผู้ยากไร้ชาวมุสลิม แต่ความตั้งใจดีกลับนำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากบางกลุ่มในสังคมออนไลน์

“เรื่องดราม่ามี 2 อย่าง อย่างแรกคือตอนที่ผมแถลงข่าวหลังชกเสร็จว่าได้โบนัส และต้องการมอบส่วนหนึ่งให้กับผู้ยากไร้ชาวมุสลิม” รถถังเล่า “มีคนเข้ามาโจมตีใหญ่เลย บ้างก็บอกว่าเงินนั้นมันเป็นเงินบาป เงินต่อสู้ สารพัด ผมเองเป็นคนที่เซนซิทีฟกับเรื่องศาสนาอยู่แล้ว แต่กลุ่มคนที่วิจารณ์ก็เป็นเพียงกลุ่มหนึ่งขนาดกลางๆ เท่านั้น”

ดราม่าดังกล่าวเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับลักษณะของเงินรางวัลจากการแข่งขันกีฬา ซึ่งบางคนมองว่าเป็น “เงินบาป” ไม่เหมาะสมที่จะนำไปบริจาคในกิจกรรมทางศาสนา แต่ในความเป็นจริงแล้ว การแข่งขันกีฬาเป็นอาชีพที่สุจริตและเงินรางวัลที่ได้มาก็เป็นผลตอบแทนจากความสามารถและความพยายามของนักกีฬา

ชี้แจงประเด็น “มีเงินแล้วครอบครัวเยอะ”

อีกประเด็นที่ถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์คือ เรื่องของครอบครัวที่มีสมาชิกจำนวนมาก โดยมีคนกล่าวหาว่า “พอมีเงินครอบครัวก็จะเยอะ” ซึ่งรถถังได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่าครอบครัวของเขามีสมาชิกจำนวนมากมาตั้งแต่ก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จทางการเงิน

“ผมจะบอกว่าครอบครัวผมเยอะมาตั้งนานแล้ว แล้วอยู่กันมาไม่เคยปล่อยมือใครสักคน พี่น้อง 12 คน ลูกหลานอีก รวมแล้วเกือบ 30 คน ทุกๆ ไฟต์หลังชกเสร็จจะมาอยู่รวมกัน แต่คนมาเห็นไฟต์ที่ชนะเท่านั้น” รถถังกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ความสัมพันธ์ในครอบครัวของเขามีความแน่นแฟ้นมาโดยตลอด ไม่ว่าจะในยามสุขหรือยามทุกข์ ทุกคนต่างให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันมาตลอด ไม่ใช่เพิ่งมาปรากฏตัวหลังจากที่เขาประสบความสำเร็จทางการเงิน

การบริหารจัดการเงิน “ไม่ชอบเก็บเป็นเงินสด”

รถถังยังได้เปิดเผยถึงการบริหารจัดการเงินรางวัลที่ได้รับ โดยเน้นการใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีวินัย “ผมไม่ชอบเก็บเป็นเงินสด ผมจะใช้เงินวันละ 1,000 บาท เช่น ตื่นมาวันนี้ใช้แค่ค่าทางด่วนมาสัมภาษณ์ 150 บาท แค่นี้ ข้าวกินที่บ้าน”

เขายังเล่าว่าได้นำเงินไปลงทุนซื้อที่ดิน และแบ่งส่วนหนึ่งให้กับภรรยา อัยด้า ลูกทรายกองดิน สำหรับใช้จ่ายในครอบครัว นอกจากนี้ หากมีการใช้จ่ายเพิ่มเติมก็จะเป็นการซื้อสัตว์เลี้ยง เช่น แพะ หรือควาย เพื่อนำไปเลี้ยงที่ทุ่งนา สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแม้จะมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงแล้วก็ตาม

แผนอนาคต “เปิดค่ายมวยของตัวเอง”

สำหรับแผนในอนาคต รถถังได้เปิดเผยว่ากำลังเตรียมการเปิดค่ายมวยของตัวเองที่บริเวณคลอง 16 อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนของการขอซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อจัดทำเป็นทุ่งนา

โครงการดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเป็นการสร้างมรดกทางกีฬาของรถถัง แต่ยังเป็นการส่งต่อความรู้และประสบการณ์ให้กับนักมวยรุ่นใหม่ที่มีความฝันและความมุ่งมั่นเช่นเดียวกับที่เขาเคยมี อีกทั้งยังเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในท้องถิ่นอีกด้วย

เส้นทางชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

แม้ปัจจุบันรถถังจะประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงในระดับโลก แต่เส้นทางชีวิตของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาต้องผ่านความยากลำบาก การฝึกซ้อมอย่างหนัก และการเสียสละมามากมาย กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้

จากเด็กหนุ่มธรรมดาที่เริ่มต้นเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้แบบมวยไทยตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยความมุ่งมั่นและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค รถถังได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากโชคชะตา แต่มาจากความอดทนและความพยายามอย่างไม่ลดละ

แรงบันดาลใจสำหรับคนรุ่นใหม่

เรื่องราวของรถถัง จิตรเมืองนนท์ ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวของความสำเร็จในวงการกีฬา แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจสำหรับเยาวชนและคนรุ่นใหม่ที่มีความฝัน การที่เขายังคงรักษาความเรียบง่ายและไม่ลืมรากเหง้าของตัวเอง แม้จะประสบความสำเร็จในระดับโลกแล้วก็ตาม เป็นบทเรียนล้ำค่าที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตได้

ในยุคที่ความสำเร็จมักถูกวัดด้วยวัตถุและเงินทอง รถถังได้แสดงให้เห็นว่าครอบครัว ความเรียบง่าย และการแบ่งปันคือคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่เพียงแต่เป็นแชมป์ในสังเวียน แต่ยังเป็นแชมป์ในใจของแฟนมวยชาวไทยและทั่วโลกอีกด้วย