(7 ม.ค.64) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ว่ากลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภา ใจกลางกรุงวอชิงตัน เมื่อช่วงบ่ายของวันพุธ โดยมวลชนส่วนหนึ่งพยายามบุกเข้าไปภายในห้องประชุม ระหว่างที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกเตรียมประชุมร่วมกัน เพื่อรับรองมติของคณะผู้เลือกตั้ง สร้างความตื่นตระหนักให้กับสมาชิกรัฐสภา ซึ่งช่วยกันนำตู้ขนาดใหญ่มากั้นไว้ที่บานประตู และเจ้าหน้าที่อารักขาของรัฐสภาร่วมกันป้องกันไม่ให้เกิดการบุกรุก
ขณะที่สำนักงานตำรวจกรุงวอชิงตันส่งหน่วยปราบปราบจลาจลเข้าระงับเหตุ โดยมีการใช้ทั้งแก๊สน้ำตา สเปรย์พริกไทย และกระสุนยาง เพื่อควบคุมสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกรัฐสภา พร้อมทั้งอพยพสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด และรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ซึ่งเตรียมทำหน้าที่ประธานการประชุมด้วย การอพยพและปิดกั้นพื้นที่ใช้เวลานานหลายชั่วโมงจนถึงช่วงค่ำ เจ้าหน้าที่จึงยืนยันการควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ และจับกุมผู้ก่อความไม่สงบได้จำนวนหนึ่ง
ด้านนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เรียกร้องทรัมป์ “ออกคำสั่ง” ให้มวลชนออกจากพื้นที่โดยเร็ว และเธอยืนยันว่าการประชุมต้องเสร็จสิ้นภายในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ในเวลาเดียวกัน นายเควิน แมคคาร์ธีย์ ผู้นำเสียงข้างน้อยของพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ผู้นำสหรัฐ “มีท่าทีอย่างเป็นทางการ เพื่อยุติความวุ่นวาย” ส่วนนายมาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกรัฐฟลอริดา และเป็นหนึ่งในแกนนำของพรรครีพับลิกัน กล่าวว่าทรัมป์ต้องใช้อำนาจตามกฎหมายในฐานะประธานาธิบดี ฟื้นฟูความสงบและรักษาความปลอดภัยให้กับรัฐสภา
ในเวลาเดียวกัน นายโจ ไบเดน ซึ่งยังอยู่ที่เมืองวิลมิงตัน ในรัฐเดลาแวร์ ประณามสถานการณ์ที่รัฐสภา “เป็นการจลาจล” และเรียกร้องผู้นำสหรัฐคนปัจจุบันควบคุมสถานการณ์ ขณะที่สมาคมการผลิตแห่งชาติของสหรัฐ ซึ่งมีสมาชิกเป็นบริษัทมากกว่า 14,000 แห่ง รวมถึงเอ็กซอน โมบิล ไฟเซอร์ และบริษัทข้ามชาติอย่างโตโยต้า มอเตอร์ ออกแถลงการณ์เรียกร้องเพนซ์ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 25 ปลดทรัมป์ออกจากตำแหน่ง “เพื่อปกป้องประชาธิปไตย”.
เครดิตภาพ : REUTERS, AP
เครดิตข่าว https://www.dailynews.co.th/foreign/817372