กลัวซะที่ไหน! “ทรัมป์” ออกจาก รพ. เดินป๋อกลับทำเนียบขาว บอกคนอเมริกันชน “ออกมาใช้ชีวิต”

ข่าวด่วนเกาะกระแส

(6 ต.ค. 2563) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ แนะชาวอเมริกา “ออกมาใช้ชีวิตข้างนอก” และอย่ากลัวโควิด-19 ขณะเดินทางกลับสู่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์(5ต.ค.) หลังต้องพักค้างโรงพยาบาล 3 คืน เพื่อรักษาอาการต่างๆจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกที่ได้กลับสู่ทำเนียบขาว ซึ่งเจ้าหน้าที่หลายคนต่างติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน ทรัมป์ตอบกลับว่า “รู้สึกดีมากๆ”

ทรัมป์สวมหน้ากากตอนที่เดินทางจากเฮลิคอปเตอร์ที่บินไปรับเขามาจากโรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่งรอบนอกวอชิงตัน และเดินออกมาตรงระเบียงทางทิศใต้ของทำเนียบขาว ก่อนถอดหน้ากากออกและโพสท่าถ่ายรูป โบกไม้โบกมือ ทำท่าตะเบ๊ะและชูนิ้วโป้งอันเป็นสัญลักษณ์ของเขา จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปทำเนียบขาว

ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้ ซึ่งกำลังต่อกรกับ โจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแคต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 3 พฤศจิกายน ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวอลเตอร์ รีด เมดิคอล เซ็นเตอร์ เมื่อวันศุกร์(2ต.ค.) หลังถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กล่าวในบันทึกวิดีโอ ก่อนออกเดินทางกลับสู่ทำเนียบขาวว่า “อย่าปล่อยให้มันบดบังชีวิตคุณ เรากำลังกลับไป เรากำลังกลับไปทำงาน เรากำลังออกไปข้างนอก จงอย่าปล่อยให้มันครอบงำชีวิตคุณ ออกไปข้างหน้า อย่างระมัดระวัง”

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตผู้คนแล้วมากกว่า 1 ล้านรายทั่วโลก ในนั้น 209,000 รายอยู่ในสหรัฐฯ มากกว่าประเทศไหนๆในโลก

คณะแพทย์ของทรัมป์กล่าวระหว่างแแถลงสรุปบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล ว่าทรัมป์วัย 74 ปี ไม่มีไข้มานานกว่า 72 ชั่วโมงและระดับออกซิเจนของเขาเป็นปกติ อย่างไรก็ตามคณะแพทย์ไม่ได้ให้ข้อมูลว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ก่อความเสียหายแก่ปอดของประธานาธิบดีหรือไม่ หรือเปิดเผยว่าผลตรวจโควิด-19 ของทรัมป์ครั้งสุดท้ายออกมาเป็นลบเมื่อไหร่

ทีมแพทย์เผยว่าประธานาธิบดีได้รับออกซิเจนเสริม 2 ครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา “เขายังไม่ผ่านพ้นอันตรายอย่างสมบูรณ์” นายแพทย์ฌอน พี.คอนลีย์ แพทย์ประจำทำเนียบขาวบอกกับผู้สื่อข่าว “ถ้าเราผ่านพ้นวันจันทร์ และเขายังมีอาการคงที่หรือดีขึ้น เมื่อนั้นคงเป็นสัญญาณที่เบาใจอย่างมาก”

อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าคณะแพทย์เชื่อว่าประธานาธิบดีพร้อมสำหรับออกจากโรงพยาบาล และเน้นว่าเขาจะได้รับการดูแลทางการพทย์ระดับโลกตลอด 24 ชั่วโมงที่ทำเนียบขาว

ความรุนแรงในอาการป่วยของทรัมป์โหมกระพือข่าวลือและการคาดเดาต่างๆนานาในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์บางส่วน เน้นว่าการที่ทรัมป์มีน้ำหนักเกินมาตรฐานหรืออ้วน อยู่ในวัยสูงอายุ เขาจึงอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรงหรือถึงขั้นเสียชีวิตจากโควิด-19

นอกจากนี้แล้วคณะแพทย์ยังใช้เดกซาเมทาโซน ซึ่งเป็นยาในกลุ่มสเตียรอยด์ในการรักษาเขา ซึ่งปกติแล้วจะใช้รักษาเฉพาะในเคสผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนักเท่านั้น

บ่อยครั้งที่ ทรัมป์ ดูเบาภัยคุกคามของโรคระบาดใหญ่ ซึ่งแพร่เชื้อสู่อเมริกันชนมากกว่า 7.4 ล้านคน ในนั้นเสียชีวิตไปแล้วกว่า 209,000 คน และในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาเผยแพร่วิดีโอจากโรงพยาบาลเป็นชุดๆ หวังสร้างความอุ่นใจแก่ประชาชนว่าเขากำลังฟื้นไข้จากโควิด-19

แหล่งข่าวใกล้ชิดกับสถานการณ์เปิดเผยกับรอยเตอร์ในวันจันทร์(5ต.ค.) ว่าทรัมป์ไม่สู้เต็มใจเดินทางไปโรงพยาบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และกระวีกระวาดออกจากโรงพยาบาล ด้วยเหตุนี้ทางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯจากเดโมแครต จึงแสดงความหวังว่าการตัดสินใจกลับสู่ทำเนียบขาวของทรัมป์จะไม่มีแรงจูงใจทางการเมือง

เปโลซี แสดงความกังวลว่าทรัมป์อาจกลายเป็น long-hauler หรือกลุ่มผู้คนที่ประสบกับอาการปริศนาหลังได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 อาการส่วนมากที่ผู้คนเหล่านี้พบเจอ คือความยากลำบากในการใช้สมาธิ รู้สึกเบื่อหน่าย และอ่อนเพลีย บางคนอาจมีอาการเหล่านี้ไปหลายสัปดาห์ โดยบางส่วนอาจมีอาการนานหลายเดือน

อย่างไรก็ตามทีมแพทย์ของทรัมป์บอกว่าประธานาธิบดีรายนี้ไม่ได้กดดันคณะแพทย์ใดๆให้รีบรักษาเขา

ทั้งนี้แม้ว่าทรัมป์จะออกจากโรงพยาบาล แต่ดูเหมือนว่าเขาคงต้องทำการรักษาตัวต่อไป เนื่องจากยังคงอยู่ในคอร์ส 5 วันของการรักษาด้วยยาต่อต้านไวรัสเรมดิซิเวียร์ และจำเป็นต้องกักตนเองไปอีกสักพัก

ผลสำรวจความคิดเห็นจองรอยเตอร์/อิปซอสที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์(4ต.ค.) พบว่า ทรัมป์ มีคะแนนตามหลัง ไบเดน วัย 77 ปี อยู่ราวๆ 10 จุด และอเมริกันชนราาว 65% บอกว่าทรัมป์จะไม่ติดเชื้อโควิด-19 หากเขาจริงจังกับไวรัสมากกว่านี้

ทรัมป์ เพิกเฉยซ้ำๆต่อคำแนะนำด้านการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อสกัดการแพร่ระบาด นอกจากนี้แล้วเขายังพูดจากเยาะเย้ย ไบเดน ในศึกดีเบตประธานาธิบดียกแรกเมื่อวันอังคารที่แล้ว ต่อกรณีที่ตัวแทนจากเดโมแครตสวมหน้ากากยามที่เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งตอนที่อยู่ห่างจากคนอื่นๆ

ไบเดน ซึ่งมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบหลายครั้งนับตั้งแต่ดีเบต ระบุเมื่อวันจันทร์(5ต.ค.) ว่าเขาตั้งใจเข้าร่วมศึกดีเบตประธานาธิบดีครั้งต่อไปซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 15 ตุลาคม ที่ไมอามี หากว่าพวกผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นแล้วว่ามันมีความปลอดภัย ขณะที่ทีมหาเสียงของทรัมป์ เปิดเผยว่าทรัมป์เองก็มีความตั้งใจเข้าร่วมเช่นกัน

(ที่มา:รอยเตอร์)