ขาเที่ยวมีเฮ! เตรียมลดภาษีธุรกิจสถานบริการ คาดมีผลสัปดาห์นี้

ข่าวด่วนเกาะกระแส

1.วันที่ 6 ก.ค.63 รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิต ระบุว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวง เพื่อให้มีการยกเว้นการเก็บภาษีธุรกิจสถานบริการที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิต เช่น ธุรกิจกลางคืน ผับ บาร์ ร้านอาหารจำหน่ายสุรา อาบอบนวด สนามม้า สนามกอล์ฟ เป็นต้น ซึ่งเป็นมาตรการทางภาษีสรรพสามิตเพื่อฟื้นฟูภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

2.ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอให้ รมว.คลัง ลงนามและหลังจากนี้คาดว่าจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาได้ภายในสัปดาห์นี้

3.สำหรับร่างกฎกระทรวงให้มีการยกเว้นการเก็บภาษีธุรกิจสถานบริการที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิต มีทั้งสิ้น 5 ฉบับ ได้แก่

3.1 กฎกระทรวงยกเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการ อาทิ ผับ บาร์ อาบอบนวด สนามกอล์ฟ สนามม้า และบริการอื่น ๆ ที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต
-ได้รับการยกเว้นภาษีเป็นระยะเวลา 1 ปี แต่มีเงื่อนไขว่าผู้ประกอบการจะต้องจ้างพนักงานหรือไม่มีการเลิกจ้างพนักงานมาก่อนนับตั้งแต่เดือน ม.ค.2563 เพื่อเป็นไปตามนโยบายของรัฐ

3.2 กฎกระทรวงให้มีการเลื่อนการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบ จากเดิม 20% ปรับเป็น 40% ในวันที่ 1 ต.ค.2563 โดยให้เลื่อนออกไปอีก 1 ปี เป็นวันที่ 1 ต.ค.2564 เพื่อลดผลกระทบของผู้ประกอบการในประเทศและผู้นำเข้าบุหรี่จากต่างประเทศ รวมถึงเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบด้วย

3.3 กฎกระทรวงให้มีการลดภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มนวัตกรรมที่มีส่วนผสมของน้ำผัก และผลไม้ ไม่ต่ำกว่า 10% โดยให้เสียภาษีในอัตรา 3% เท่าเดิม

3.4 กฎกระทรวงให้มีการปรับลดภาษีรถสามล้อไฟฟ้า (ตุ๊กตุ๊กอีวี) เหลือ 2% เพื่อลดภาระให้ผู้ประกอบการและส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก

3.5 กฎกระทรวงให้มีการขยายเวลาการชำระภาษีให้กับสินค้าทุกชนิดที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิตที่เก็บอยู่ในคลังสินค้าสนามบิน โดยให้สามารถยืดเวลาการชำระภาษีออกไปได้ จากเดิมที่กำหนดไว้ 7-15 วัน ขยายเวลาการจัดเก็บสินค้าได้เป็นเวลา 120 วัน จากเดิม 60 วัน เนื่องจากสนามบินหยุดให้บริการจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19

4.การลดภาษีชุดใหญ่นี้เพื่อช่วยผู้ประกอบการทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่ใช่แต่เฉพาะสินค้าที่เป็นสินค้าบาปเท่านั้น โดยร่างกฎกระทรวงทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้เร็ว ๆ นี้ และจะมีประกาศของกรมสรรพสามิตตามออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการทุกกลุ่ม

5.สำหรับการเลื่อนขึ้นภาษีบุหรี่เป็น 40% เป็นการเลื่อนครั้งที่ 2 หลังจาก ครม.เห็นชอบให้เลื่อนมีผลบังคับใช้ก่อนหน้านี้จาก 1.ต.ค.2562 เป็น 1 ต.ค.2563 โดยผลจากมติ ครม.ให้มีการเลื่อนขึ้นภาษี จะทำให้ราคาบุหรี่ปรับราคาขึ้นช้าลงอีก 1 ปี

6.ก่อนหน้านี้โรงงานยาสูบได้ประเมินว่า บุหรี่ที่ขายราคาต่ำสุดปัจจุบันที่ 60 บาทต่อซอง สัดส่วน 80-90% ของตลาด หากปรับภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 40% จะทำให้ราคาปรับขึ้นไปอยู่ที่ 93-100 บาทต่อซอง หากไม่มีมติ ครม.ให้เลื่อนขึ้นภาษีออกไปราคาดังกล่าวจะมีผลในเดือน ต.ค.2564