ด่วน! “10 จังหวัด” ได้สิทธิ์ฉีดวัคซีนโควิดระยะแรก จำนวน 1.93 ล้านโด๊ส

Exclusive ข่าวเศรษฐกิจ

(11 ก.พ.64) ที่กระทรวงสาธารณสุข  นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ปฏิบัติหน้าที่ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงแผนการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 2 ล้านโดสแรกจากซิโนแวค ประเทศจีน ว่า พื้นที่เป้าหมายการฉีดในระยะเร่งด่วน ช่วงเดือนก.พ.-เม.ย.2564 จะกระจายใน 10 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ที่เคยเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่ที่พบการติดเชื้อต่อเนื่อง โดยจะให้บริการในสถานพยาบาลที่มีแพทย์และห้องฉุกเฉินทั้งรัฐและเอกชน โดย 1 คน ฉีด 2 เข็ม ประกอบด้วย

1.สมุทรสาคร 8.2 แสนโดส จำนวน 4.1 แสนคน
เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 8,000 คน เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 6,000 คน ผู้ที่มีโรคประจำตัว 36,000 คน ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 1.5แสนคน และประชาชนทั่วไปและแรงงาน 2.1 แสนคน

2.กรุงเทพฯ 8 แสนโดส จำนวน 4 แสนคน
เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 32,000 คน เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 8,000 คน ผู้ที่มีโรคประจำตัว 1แสน คน ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 1 แสนคน และประชาชนทั่วไปและแรงงาน 1.6 แสนคน

3.นนทบุรี 26,000 โดส จำนวน 13,000 คน
เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 9,000  คน เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 4,000 คน

4.ปทุมธานี 26,000 โดส จำนวน 13,000 คน
เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 9,000  คน เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 4,000 คน

5.สมุทรปราการ 28,000 โดส จำนวน 14,000 คน
เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 9,000  คน เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 5,000 คน

6.ระยอง 18,000 โดส จำนวน 9,000 คน
เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 5,000  คน เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 4,000 คน

7. ชลบุรี 28,000 โดส จำนวน 14,000 คน
เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 10,000  คน เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 4,000

8.จันทบุรี 16,000 โดส จำนวน 8,000 คน
เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 6,000  คน เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 2,000 คน

9.ตราด  12,000 โดส จำนวน 6,000 คน
เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 5,000  คน เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 1,000 คน

10.ตาก  1.6 แสนโดส จำนวน 80,000 คน
เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 8,000 คน เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 2,000 คน ผู้ที่มีโรคประจำตัว 10,000 คน ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 10,000 คน และประชาชนทั่วไปและแรงงาน 50,000 คน

รวมวัคซีนทั้งสิ้น 1,934,000 โดส จำนวน 967,000 คน ส่วนอีก 66,000 โดส สำหรับ 33,000 คนนั้นจะสำรองไว้เผื่อมีพื้นที่อื่นระบาดเกิดขึ้น โดยจะให้กับพื้นที่ที่อยู่โดยรอบพื้นที่ระบาดเพื่อเป็นการสกัดวงการแพร่เชื้อฯ

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ส่วนระยะที่ 2 จำนวน 61 ล้านโดส จะดำเนินการกระจายในช่วงเดือนมิ.ย.และให้แล้วเสร็จภายในปี 2564 มีอัตราการฉีดในรพ.ที่แพทย์และห้องฉุกเฉินทั่วประเทศ 1,000 แห่ง วันละ 500 โดส 20 วันต่อเดือน เฉลี่ย 10 ล้านโดสต่อเดือน แต่หากในอนาคตเมื่อวัคซีนมีความปลอดภัยมากขึ้นอาจพิจารณาขยายการให้บริการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)บางแห่งที่มีอุปกรณ์ฟื้นคืนชีพ

นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า จากการที่กรมควบคุมโรค ดำเนินการสำรวจทัศนคติ ความเห็นของประชาชน เมื่อวันที่ 26 ม.ค.-8 ก.พ. 2564 จำนวน 2,879 ตัวอย่าง พบว่ากลุ่มที่ควรได้รับวัคซีนก่อนคือบุคลากรทางการแพทย์  70 % ผู้สูงอายุ 40 % ทุกคน 35 % ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 33 % และเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ 22% แต่ทางวิชาการกลุ่มเด็กและหญิงตั้งครรภ์ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเพราะวัคซีนเป็นการใช้ภาวะฉุกเฉินไม่ได้มีการทดลองใน 2 กลุ่มนี้ นอกจากนี้ หากไม่มีรายงานการติดเชื้อ การป่วยและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19ยังต้องการฉีดวัคซีนมากน้อยแค่ไหน พบว่า ยังต้องการมาก ปานกลางและน้อย รวมประมาณ 70 %  ไม่ต้องการฉีด 18 % และไม่แน่ใจ 12 %

แหล่งข่าว https://www.dailynews.co.th/politics/824835