ตร. มอบหมาย “บช.ไซเบอร์” ฟันคนโพสต์ชักชวนชุมนุม – คนโพสหมิ่นเหม่

ข่าวด่วนเกาะกระแส

(15 ต.ค.63) – ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รอง โฆษก ตร.) แถลงสรุปผลปฏิบัติการของตำรวจภายหลังสลายการชุมนุมเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

โดย พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จากการปฎิบัติเข้ากระชับพื้นที่เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ใช้กำลังตำรวจประมาณ 6 กองร้อย มีผลการปฏิบัติอยู่ในเกณฑ์ดี และยืนยันมีการคุมตัวแกนนำและผู้ชุมนุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ทั้งสิ้น 20 คน โดยในจำนวนนี้ยืนยันว่าเป็นแกนนำรวม 3 ราย ประกอบด้วย นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ นายอานนท์ นำภา และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ แพนกวิน ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และจัดให้มีการชุมนุม ซึ่งทั้งหมดถูกคุมตัวไปยัง กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จังหวัดปทุมธานี โดยทุกคนไม่ได้รับบาดเจ็บระหว่างการจับกุมตัว

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผบ.ตร. ได้กำชับให้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เพิ่มมาตรการในการป้องกันเหตุร้ายในช่วงนี้ โดยเฉพาะทางการข่าวที่มีการชักชวนไปชุมนุมกันที่แยกราชประสงค์ในช่วงบ่ายวันนี้นั้น ทาง บช.น. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.น. เป็นผู้ดูแลในภาพรวม โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนหลักๆ โซนแรก สกายวอร์ค รถไฟฟ้าบีทีเอส อยู่ในความรับผิดชอบของ พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รอง ผบก.น.6

โซนที่สอง ถนนราชดำริ ซีกขวาตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เกษรพลาซ่า มายังอัมรินทร์พลาซ่า อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 และโซนที่สาม ตั้งแต่เซ็นทรัลเวิลด์ พารากอน ถนนพระราม 1 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเป็นความรับผิดชอบของ พล.ต.ต.เมธี รักพันธ์ ผบก.น.6 ซึ่งจะใช้กำลังตำรวจทั้งสิ้น 13 กองร้อย หรือประมาณ 2 พันนาย เข้าพื้นที่ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ในการดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบการชุมนุม พร้อมขอให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ถึง 22.00 น.

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในท้องที่กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 15 ตุลาคม เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย อีกทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ พร้อมออกข้อกำหนดต่างๆ เช่น ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือมั่วสุม ณ สถานที่ใดๆ ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ โดย ผบ.ตร. ได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืนข้อกำหนด

จากนั้นตำรวจได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลเลิกการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งปรากฎชัดเจนว่ามีผู้ชุมนุมบางส่วนขัดขืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ จึงได้ดำเนินการควบคุมตัวผู้ชุมนุมไปทั้งสิ้นกว่า 20 ราย เนื่องจากเป็นความผิดซึ่งหน้า จากนี้จะดำเนินการกับผู้ที่ถูกจับกุมตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และฝากเตือนผู้ที่ยังชักชวนให้ประชาชนออกไปชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ขอให้ทราบว่าตอนนี้รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้ง กทม. ซึ่งจะถือว่าผู้ที่ชักชวนและผู้มาชุมนุมมีความผิด

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตำรวจยังได้ตรวจสอบการกระทำความผิดในลักษณะโพสต์ข้อความหมิ่นเหม่ทางโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยส่วนนี้ทาง กองบัญชาการตำรวจ สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท. ) หรือ บช.ไซเบอร์ เป็นผู้รวบรวมข้อมูลสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี

เครดิต https://www.thaipost.net/main/detail/80591