“ตำรวจเมา” ยิงปืนขู่ “ฝรั่ง” หน้าผับ “พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว” เดินเข้าไปห้าม โดนยิง 2 นัดสาหัส

Exclusive ข่าวอาชญากรรม ภัยสังคม ภูเก็ต

(23 ก.พ.64) เมื่อเวลา 05.45 น. พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ สมมาตร สว.สอบสวน สภ.ป่าตอง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุยิงกันขึ้นที่ด้านหน้าอิลูชั่นผับ ภายในซอยบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย จึงพร้อมด้วยชุดสืบสวนนำกำลังหน่วยกู้ชีพ รพ.ป่าตอง และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ประจำพื้นที่ป่าตองรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ในซอยบางลา ซึ่งเป็นวอล์กกิ้งสตรีท พบผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อ นายอรุณ ทองพลับ อายุ 25 ปี พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวและขี่รถจยย.รับจ้าง สวมเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล และสวมผ้ากันเปื้อนสีแดง นอนหงายอยู่บนถนน ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิง 2 จุด ที่บริเวณใต้รักแร้ด้านขวา 1 นัด และบริเวณแผ่นหลังด้านซ้ายอีก 1 นัด หายในรวยริน อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพได้ปั๊มหัวใจยื้อชีวิตอย่างเร่งด่วน ก่อนรีบนำตัวส่ง รพ.ป่าตอง ก่อนที่จะนำส่งต่อไปยัง รพ.วชิระภูเก็ต

จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุทราบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้นเป็นพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวและขี่รถ จยย.รับจ้างอยู่ในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ก่อนเกิดเหตุได้มีชายซึ่งอยู่ในอาการเมาเกิดมีปากเสียงกับชาวต่างชาติ และมีการชักยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ ก่อนที่ผู้ได้รับบาดเจ็บจะเดินเข้าไปดู และถูกยิงได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ส่วนผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีรายงานว่าเป็นอดีตตำรวจชุดสืบสวนสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ก่อนที่จะย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ กก.สส.ภ.8 ซึ่งก่อนเกิดเหตุตำรวจคนดังกล่าวได้มีการเลี้ยงฉลองการย้ายไปประจำ ภ.8 จนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยตำรวจนายดังกล่าวหลังก่อเหตุยังคงนั่งอยู่บริเวณหน้าบาร์ใกล้จุดเกิดเหตุ จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ป่าตอง

ด้าน พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ก่อเหตุยังให้การวกไปวนมา เนื่องจากมีอาการเมา ยังไม่สามารถสอบปากคำได้ โดยยืนยันจะให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่ พล.ต.ต.นภัณต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า ตนเองได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุทราบว่า เดิมสังกัดอยู่ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต แต่มีคำสั่งย้ายมาสังกัดตำรวจภูธรภาค 8 โดยจะให้มารายงานตัวและเรียกประชุมเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ก.พ. แต่เกิดปัญหาขึ้นก่อน.

แหล่งข่าว https://www.thairath.co.th/news/crime/2038095