ทำไม “อจ.อ๊อด -ดร.วีรชัย” ได้ฉายา “เจ้าพ่อเฟคนิวส์ ผ้าสปันบอนด์ก่อมะเร็ง”

คนดังในโซเชียล

เนื่องมาจากวันที่ 3 มี.ค.63 อจ.อ๊อด – ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ ได้โพสในเฟชบุ๊ก Weerachai Phutdhawong ข้อความว่า

สรุปผลการตรวจหน้ากากของคุณศิระที่เอามาแจกประชาชน วิเคราะห์ด้วยเทคนิค FT-IR-ATR เป็น ผ้าสปันบอนด์ ที่เกิดจากเส้นใยสังเคราะห์ ของโพลิเมอร์ ที่เป็น “ Polypropylene ( PP ) ” ลักษณะทางกายภาพมีกลิ่นเหม็นพลาสติก มีขนาดบางมากๆ เส้นใยสีฟ้าเป็นการย้อมสีเพื่อให้ดูรู้สึกดี แต่ทั้ง 3 ชั้นบางมากและเป็นพอลิเมอร์ชนิดเดียวกัน ที่สำคัญมีกลิ่นฉุน แตกยุ่ยได้ง่าย ซึ่งจะก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เรียกว่าไมโครพลาสติก หากสูดดมเข้าไปในร่างกาย มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง หากนำไปล้างน้ำและไหลลงไปในระบบนิเวศ เช่นแม่น้ำลำคลอง สัตว์น้ำสัตว์ทะเลจะได้รับไมโครพลาสติกพวกนี้กลับเข้ามาสู่ระบบและมนุษย์ก็ไปกินสัตว์น้ำเหล่านี้ก็จะเข้ามาสู่ร่างกายได้เช่นกัน ในระยะยาวพลาสติกเหล่านี้ย่อยสลายได้ยากมาก และเป็นกลุ่มเสี่ยงชื่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แนะนำให้ส่งคืน #ใช้ภาพและข้อความได้เลยครับ


ข้อมูลอ้างอิง : https://www.facebook.com/phutdhawong/posts/2816331998457092

 

ต่อมาศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย แจงกรณีที่มีการแชร์ว่า”หน้ากากอนามัยผ้าสปันบอนด์ที่เกิดจากเส้นใยสังเคราะห์ Polypropylene หากสูดดมเสี่ยงเกิดโรคมะเร็ง” ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติได้ให้ข้อมูลว่า องค์การวิจัยมะเร็งนานาชาติระบุว่าพลาสติกกลุ่ม Polypropylene ไม่จัดเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ดังนั้นการใช้หน้ากากอนามัยที่ทำมาจากผ้าสปันบอนด์จึงยังไม่มีข้อมูลว่าทำให้เกิดโรคมะเร็ง

วันนี้ (13 มี.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง หน้ากากอนามัยผ้าสปันบอนด์ เป็นไมโครพลาสติก สูดดมอาจเสี่ยงมะเร็ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีที่มีการแชร์ว่า “หน้ากากอนามัยผ้าสปันบอนด์ ที่เกิดจากเส้นใยสังเคราะห์ ของโพลิเมอร์ ที่เป็น “Polypropylene ( PP )” ซึ่งมีกลิ่นฉุน แตกยุ่ยได้ง่าย จะก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เรียกว่าไมโครพลาสติก หากสูดดมเข้าไปในร่างกาย มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง” ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ให้ข้อมูลว่า หน้ากากอนามัยผลิตจากใยสังเคราะห์ประเภทเดียวกันกับผ้าสปันบอนด์ซึ่งทำมาจากพลาสติกกลุ่ม Polypropylene จากรายงานขององค์การวิจัยมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer; IARC) ระบุว่าพลาสติกกลุ่ม Polypropylene ไม่จัดเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์หรืออยู่ในกลุ่ม 3 ดังนั้นปัจจุบันการใช้หน้ากากอนามัยที่ทำมาจากผ้าสปันบอนด์จึงยังไม่มีข้อมูลว่าทำให้เกิดโรคมะเร็ง

พลาสติกกลุ่ม Polypropylene ที่นำมาใช้ผลิตผ้าสปันบอนด์ใช้ระยะเวลาในการย่อยสลายเร็วกว่าพลาสติกทั่วไปทำให้เกิดความกังวลว่าพลาสติกชนิดนี้จะย่อยสลายเป็นไมโครพลาสติกแล้วปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังไม่มีรายงานทางวิชาการที่ยืนยันแน่ชัดถึงไมโครพลาสติกกลุ่ม Polypropylene ที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมแล้วก่อให้เกิดโรคมะเร็งในมนุษย์ ดังนั้นจึงไม่ควรตื่นตระหนกเกี่ยวกับการใช้หน้ากากอนามัยจากใยสังเคราะห์สปันบอนด์

ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800

ข้อมูลอ้างอิง:  https://news1live.com/detail/9630000025391

ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ของขึ้น หลัง รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ว่าไม่เคยบอกว่าหน้ากากอนามัยที่นายสิระได้แจกจ่ายให้กับประชาชนไปนั้น เสี่ยงก่อโรคมะเร็ง

โดยหลังทราบข่าว นายสิระได้เดินทางไปที่ สน.ทุ่งสองห้อง แล้วได้ต่อว่า รศ.ดร.วีรชัย ว่า ทำให้ตนเสียชื่อเสียง เป็นนักวิชาการประเภทไหน หวังผลทางการเมืองหรือไม่ ใครใช้คุณมาทำลายตนหรือไม่ คุณไปให้ข่าวแบบนี้ผมเสื่อมเสีย ดังนั้นคุณต้องไปแก้ข่าวว่าใครใช้คุณมา และประชาชนด่าผมทั้งประเทศ ฝ่ายการเมืองก็ด่าผมทั้งประเทศ แล้วคุณเป็นนักวิชาการยังไง สงสัยต้องไปถอดการเป็นนักวิชาการของคุณแล้ว ทำแบบนี้ไม่ได้ คุณรู้หรือไม่เขาตกใจกันทั้งเมือง และในเขตเลือกตั้งของตน คนที่รับของไป รู้หรือไม่ตนเอาเงินเดือนที่มาจากภาษีของประชาชน คืนให้ประชาชนในตอนที่เขาวิกฤติด้วยน้ำตา แต่อาจารย์อ๊อดมาทำลายผม แต่ไม่นึกถึงประชาชน คุณทำเกินไปไหมอาจารย์อ๊อด คุณบอกรู้จักผม แต่คุณทำกับผมแบบนี้ คุณทำเกินไปไหม ใครใช้คุณมาคุณต้องชี้แจง ทำแบบนี้ไม่ถูก วันดีคืนดีบอกหน้ากากที่ผมเสียสละเงินเดือนไปซื้อให้ประชาชน บอกใส่แล้วจะทำให้ก่อมะเร็ง ถ้าไม่เรียกว่าการทำลาย หวังผลทางการเมือง จะเรียกว่าอะไร แสนกว่าบาท และคนที่รับไป เขาคาดหวังว่า ส.ส. เป็นตัวแทนของเขาเสียสละเงินเดือน คุณต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ จะนิ่งเฉยไม่ได้ เพราะฉะนั้นมหาวิทยาลัยคุณต้องรับผิดชอบด้วย เพราะใช้เลปของมหาวิทยาลัย คุณทำแบบนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับคนที่เสียสละ ไม่ยุติธรรมสำหรับนายสิระ คุณไม่มีเครดิตแล้ว ต้นทุนทางสังคมคุณหมดปล้ว คุณทำแบบนี้ แยกแยะให้เป็น การเมือง กับความเดือดร้อนของประชาชน และการเสียสละของคนคนหนึ่ง ดังนั้นตนจะดำเนินคดีกับอาจารย์อ๊อด

 


ข้อมูลอ้างอิง : https://siamrath.co.th/n/138882