วันนี้ (6 ก.พ.63) พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์มลพิษจากฝุ่นละออง PM 2.5 และโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีความห่วงใยต่อสุขภาพและพลานามัยของประชาชน จึงได้มอบหมายให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) บูรณาการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุข เข้าประสานงานและขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการโรงงานผู้ผลิต “หน้ากากอนามัย” จำนวน 27 แห่ง ในพื้นที่ภาคกลางจำนวน 26 แห่ง และพื้นที่ภาคเหนือจำนวน 1 แห่ง ที่มีกำลังผลิตและมีสินค้าอยู่ในสต๊อกนำออกจำหน่าย หรือส่งให้กับตัวแทนจำหน่ายเพื่อให้ประชาชนได้มีหน้ากากอนามัยใช้สวมใส่ป้องกันจากผลกระทบข้างต้น
โดยที่ผ่านมา นายกฯ และรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.รมน.ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันรณรงค์การใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี โดยไม่สวมใส่ผิดด้าน ให้ความรู้ คำแนะนำ พร้อมศึกษาข้อมูล เพื่อหาแนวทางป้องกันให้ปลอดภัยจาก มลพิษ ฝุ่นละออง PM 2.5 และเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
“กอ.รมน.จึงใคร่ขอความร่วมมือกับสื่อมวลชน ช่วยประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ให้กับประชาชน ได้รับทราบความคืบหน้าจากสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง” พล.ต.ธนาธิป กล่าว