ปิดจ๊อบ! ผบช.น.นำกำลังเคลื่อนยึดคืนแยกปทุมวันสำเร็จ – แกนนำประกาศยุติการชุมนุม

ข่าวด่วนเกาะกระแส

(16 ต.ค.63) ลำดับเหตุการณ์ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังและอุปกรณ์เข้าปิดพื้นที่ที่มุ่งหน้าเข้าไปแยกราชประสงค์ เนื่องจากคณะราษฎร เตรียมนัดชุมนุมกันบริเวณดังกล่าวในเวลา 17.00 น.

ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ “เยาวชนปลดแอก – Free YOUTH” โพสต์ข้อความว่า ได้เปลี่ยนสถานที่ชุมนุมใหม่จากสี่แยกราชประสงค์ ไปเป็นที่แยกปทุมวัน ในเวลา 17.00 น.เหมือนเดิม หลังจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังสะกัดกั้นไม่ให้เข้าพื้นที่แยกราชประสงค์

ทำให้ผู้ชุมนุมทั้งหมดได้ทยอยเดินทางไปยังแยกปทุมวัน ก่อนลงพื้นที่ไปยังบนถนนและแยก ทำให้ต้องปิดการจราจรบริเวณดังกล่าวไปโดยปริยายในเวลา 17.00 น. โดยผู้ชุมนุมคณะราษฎรทยอยลงไปปักหลักชุมนุมบนถนน

ต่อมาเวลา 17.00 น. ผู้ชุมนุมได้ยึดพื้นที่ตรงแยกปทุมวันได้พร้อมชู 3 นิ้ว ตะโกนต่อว่ารัฐบาล โดยมวลชนที่อยู่ด้านล่างขอให้ผู้ที่อยู่บนสกายวอร์กลงมาอยู่ร่วมกัน ถ้าไม่ลงมาถือว่าไม่ใช่พวกเดียวกัน พร้อมเริ่มนั่งปักหลักรอการปราศรัยของแกนนำแล้ว ท่ามกลางพื้นถนนที่เปียกน้ำจากการที่ฝนตกลงมาก่อนหน้านี้

จากนั้นเวลา 17.25 น. รถเครื่องเสียงขนาดเล็กได้เคลื่อนมาถึงกลุ่มผู้ชุมนุม การ์ดผู้ชุมนุมได้นำแผงเหล็กกั้นมาล้อมรถเครื่องเสียง เพื่อใช้เป็นเวลาปราศรัย และแกนนำได้เริ่มปราศรัย

ถัดมาเวลา 18.00 น. บริเวณแยกเฉลิมเผ่า ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากแยกปทุมวัน พบกำลังตชด. พร้อมโล่และกระบอง มาตั้งแถวอยู่ เมื่อถามถามระบุยังไม่ทราบจะเคลื่อนไหวหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีรถฉีดน้ำแรงดันสูงมาจอดอยู่บริเวณดังกล่าวด้วย

ต่อมาเวลา 18.20 น. กำลังตำรวจพร้อมโล่และกระบอง ได้เคลื่อนกำลังจากแยกเฉลิมเผ่ามาตามถนนพระราม 1 พร้อมโล่และกระบอง รวมถึงรถฉีดน้ำแรงดันสูง โดยตำรวจได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงด้วยว่า การชุมนุมลักษณะนี้ถือว่าผิดกฎหมาย โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้มาหยุดปักหลักบริเวณหน้าห้างสยามพารากอน ก่อนค่อยๆ เดินกระชับพื้นที่ผู้ชุมนุมมาเรื่อยๆ

จากนั้นเวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนกำลังมาเรื่อยๆ จนถึงบริเวณหน้าห้างสยามเซ็นเตอร์ ขณะที่ผู้ชุมนุมต่างนำแผงเหล็กมาตั้งขวาง หวังสกัดเจ้าหน้าที่บนถนนพระราม 1 เช่นกัน ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างเผชิญกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม ระยะห่างประมาณ 100 เมตร ท่ามกลางการโห่ร้องของผู้ชุมนุม

ต่อมาเวลา 18.40 น. เจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมต่างมาเผชิญหน้าในระยะประชิด โดยผู้ชุมนุมได้ชู 3 นิ้วและตะโกนให้เจ้าหน้าที่ออกไป ขณะที่ตำรวจประกาศให้เวลาอีก 3 นาที ไม่เช่นนั้นจะฉีดน้ำให้ผู้ชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้วิธีจากเบาไปหาหนัก เราจะทำด้วยความรัก ส่วนผู้ชุมนุมได้นำร่มมากางด้านหน้า เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำเข้าใส่ โดยเจ้าหน้าที่ยังคงประกาศขอให้น้องๆ กลับบ้าน

ถัดมาเวลา 18.50 น. เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงขึ้นเข้าใส่ผู้ชุมนุม ผู้ชุมนุมต่างตะโกนโห่ร้องและใช้ร่มมากางกันไว้ พร้อมไล่ให้เจ้าหน้าที่ออกไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมไป 3 ครั้ง โดยถือเป็นมาตรการแรกของเจ้าหน้าที่ที่ได้ประกาศไว้ ซึ่งมีผู้ชุมนุมบางส่วนได้ปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ โดยรอบ 3 ที่ตำรวจฉีดน้ำใส่พบเป็นน้ำสีน้ำเงินผสมสารเคมี ซึ่งจะทำให้แสบตา ทำให้ผู้ชุมนุมล่าถอยออกมา

ต่อมาเวลา 18.55 น. เจ้าหน้าที่ใช้กำลังดันผู้ชุมนุมที่นั่งปักหลักอยู่ ทำให้ผู้ชุมนุมด้านหน้าต้องล่าถอยออกมา จากนั้นผู้ชุมนุมด้านหลังได้นำแผงเหล็กมาดันใส่กลับเจ้าหน้าที่ พร้อมใช้ร่มตีเจ้าหน้าที่ ทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือด โดยทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังระดมฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมด้วยเช่นกัน โดยทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันนานกันเกือบ 10 นาที ก่อนผู้ชุมนุมจะยอมล่าถอยออกมา ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถยึดพื้นที่ไว้ได้ โดยผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่มีระยะห่างประมาณ 200 เมตร

ต่อมาเวลา 19.10 น. เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมอีกครั้ง พร้อมให้กำลังเจ้าหน้าที่เดินหน้าและรื้อแผงเหล็กที่ผู้ชุมนุมนำมาวางขวางไว้ ทำให้ผู้ชุมนุมถอยมาอีกครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตั้งแถวเดินมุ่งไปยังผู้ชุมนุม โดยมีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามจะมาดันไว้ แต่ไม่เป็นผล ทำให้ผู้ชุมนุม 1 คนก้มกราบเจ้าหน้าที่กับพื้น พร้อมร้องขอเจ้าหน้าที่อย่าใช้ความรุนแรง

ถัดมาเวลา 19.15 น. เจ้าหน้าที่เคลื่อนรถฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม ทำให้มีอาการแสบตาและแสบจมูกอย่างมาก จนผู้ชุมนุมต้องถอยมาอีกรอบ

จากนั้นเวลา 19.25 น. เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนกำลังมาประชิดผู้ชุมนุมอีกครั้ง โดยทั้ง 2 ฝ่ายต่างเผชิญหน้า ก่อนตำรวจจะประกาศให้ผู้ชุมนุมกลับบ้าน พร้อมประกาศออกหมายจับแกนนำผู้ชุมนุมอีก 12 คน เนื่องจากกระทำความผิดตามพ.ร.บ.ฉุกเฉิน ต่อมาเจ้าหน้าที่เดินมุ่งหน้ามายังผู้ชุมนุมอีกรอบ โดยแกนนำประกาศขอให้ผู้ชุมนุมหลบเข้าไปในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการตั้งหลักและความปลอดภัย ไม่ใช่การยอมแพ้ ซึ่งระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ได้ใช้กระบองเคาะกับโล่ เพื่อเป็นการเตือนผู้ชุมนุมอีกทาง ก่อนเจ้าหน้าที่จะฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง พร้อมกระชับพื้นที่เข้ามา

ต่อมาเวลา 19.40 น. เจ้าหน้าที่ได้สลับกำลังจากตชด.มาเป็นตำรวจควบคุมฝูงชน โดยใส่หน้ากากกันแก๊ส พร้อมโล่และกระบอง ก่อนเดินหน้าเข้าหาผู้ชุมนุม พร้อมฝ่าแนวกั้นเหล็กที่ผู้ชุมนุมนำมาวางขวางไว้ โดยเจ้าหน้าที่ประกาศคำเตือนสุดท้ายให้ผู้ชุมนุมล่าถอยออกไป

จากนั้นเวลา 19.50 น. เจ้าหน้าที่เคลื่อนการชุมนุมมาถึงแยกปทุมวันแล้ว โดยบริเวณแยกยังมีผู้ชุมนุมปักหลักจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงขอให้ผู้ชุมนุมถอยออกมาสะพานลอย พร้อมให้ชุดจับกุมเตรียมดำเนินการเข้าจับกุมแกนนำที่มีหมายจับ ก่อนฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมอีกรอบ ทำให้ผู้ชุมนุมล่าถอยออกมา โดยกระจายไปบริเวณด้านข้างหอศิลป์และห้างบีเอ็มเค ก่อนรถตำรวจและรถพยาบาลจะเข้ามายึดบริเวณแยกปทุมวันคืนจากผู้ชุมนุม

ต่อมาเวลา 20.10 น. เจ้าหน้าที่นำกำลังขึ้นไปบนสกายวอล์ก เพื่อจับกุมผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านบน พร้อมเข้าเคลียร์พื้นที่บริเวณโดยรอบแยกปทุมวันทั้งหมด โดยผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม เจ้าหน้าที่จะนำตัวขึ้นรถขนผู้ต้องขังที่เตรียมรออยู่ด้านล่าง ซึ่งผู้ชุมนุมบางส่วนยังเดินหลบไปยังบริเวณสะพานหัวช้าง พร้อมประกาศให้ผู้สื่อข่าวหลบไปก่อนและออกจากแยกปทุมวัน จากนั้นเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ชุมนุมที่พูดประกาศใส่ไมค์ขึ้นรถขนผู้ต้องขังไปดำเนินคดี

จากนั้นเวลา 20.20 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้เข้ามาดูแลการควบคุมพื้นที่คืนจากผู้ชุมนุมบริเวณแยกปทุมวัน โดยรถฉีดน้ำยังปฏิบัติการไล่ฉีดผู้ชุมนุมให้ข้ามสะพานหัวช้างไปอีกฝั่ง

เครดิต
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_5127021
https://www.naewna.com/politic/525593
https://siamrath.co.th/n/190160
https://www.dailynews.co.th/politics/801472