1.จากคดีที่กำลังเป็นปริศนาเพื่อหาหลักฐานมัดตัวคนร้ายคดีของน้องชมพู่ที่ผ่านไป 53 วันแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เร่งไล่ล่าหาคนร้ายที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี
2.ล่าสุด (3 ก.ค.63) ยายย้อมสมาชิกคนหนึ่งของหมู่บ้านได้ให้ข้อมูลผ่านทางสื่อเพิ่มเติมว่าตนเห็นรถของเล่น (รถแบคโฮ) ของน้องชมพู่ตกอยู่ในบริเวณที่น้องเล่นอยู่ก่อนที่จะหายตัวไป
3.ในระหว่างที่กำลงกวาดบ้านในตอนเช้าตนได้เจอเศษกระดาษสภาพใหม่จึงหยิบขึ้นมาดูพบข้อความเขียนว่า “อย่าพูดมาก อย่ารู้มาก ระวังจะเข้าตัว”
4.ลายมือที่เขียนมาน่าจะเขียนจากมือข้างที่ไม่ถนัดเพื่อตั้งใจไม่ให้รู้ว่าเป็นลายมือของใคร
5.ตนไม่ได้คิดอะไรจึงตัดสินใจเผาจดหมายทิ้งแล้วออกไปทำงานตามปกติ พอเจอเพื่อนๆ ก็โดนทักว่าทำไมถึงกล้าออกสื่อ พวกเพื่อนๆ ยังไม่กล้าออกสื่อเลยทั้งๆ ที่เห็นรถแบคโฮเหมือนกัน แต่ไม่กล้า
6.มีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “อย่าพูดมาก อย่ารู้มาก ระวังจะเข้าตัว” ตนก็รู้สึกเอะใจว่าทำไมพูดเหมือนจดหมายที่เจอเมื่อเช้า
7.ชายคนดังกล่าวเป็นคนในหมู่บ้านแต่ตนไม่ขอบอกว่าใครซึ่งเขาอาจจะแค่เป็นห่วงเรา ถ้าตนว่างหรือเจอจะถามว่าทำไมถึงพูดเหมือนในจดหมายที่ตนได้รับ
8.ตนได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปแล้ว รู้สึกสบายใจขึ้น ก่อนนั้นทานข้าวไม่ลง ตนเชื่อมั่นในตำรวจและสื่อ อยากบอกให้คนที่เห็นรถแบคโฮออกมาให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มเติม
9.คนร้ายจะได้รู้ว่าเราไม่กลัวเค้าและตนเป็นคนแรกที่กล้าเปิดเผยตัว ส่วนเพื่อนๆ ที่รู้อะไรก็ควรออกมาเปิดเผยได้แล้ว เพราะมีทั้งตำรวจและนักข่าวช่วยๆ กันดูแลอยู่