พระ “หูยาน” ลพบุรี

พระกรุ

“พระหูยานลพบุรี” เป็นพระเครื่อง “พิมพ์ต้นกำเนิด” ที่ปรากฏขึ้น ณ กรุงละโว้ (ลพบุรี) เป็นครั้งแรกเมื่อประมาณพ.ศ. 1700 และนอกจากพระร่วงหลังลายผ้าจะได้ครองความยิ่งใหญ่ในพระเครื่องเมืองลพบุรีทั้งหมดแล้ว “พระหูยานลพบุรี” ก็นับว่าเป็นพระเครื่องชั้นนำของประเภทเนื้อชินทั้งหมดด้วยเช่นกัน

พระเครื่องที่ถูกขนานนามว่า “พระหูยาน” นี้ ที่มีชื่อเสียงมากได้กับของกรุพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุหรือที่เรียกว่าวัดใหญ่ (กรุเก่า) และกรุเจดีย์เล็ก (กรุใหม่) ซึ่งพบอยู่ในบริเวณวัดเดียวกัน แต่ด้านอายุและพระกรุใหม่นี้ประมาณว่าได้สร้างเมื่อพ.ศ. 1931 ในสมัยพระราเมศวรเท่านั้น ส่วนพระหูยานกรุวัดปืนถึงแม้อายุน้อยกว่าก็ตาม แต่ก็โด่งดังในด้านอิทธิฤทธิ์และหาชมได้ยากยิ่ง และนอกจากพระหูยานกรุวัดอินทราราม ซึ่งก็หายากอีกกรุหนึ่งแล้ว ยังปรากฏว่าที่เมืองลพบุรีนี้ยังมีพระพิมพ์หูยานอีกหลายพิมพ์ทีเดียว ที่หากรุไม่พบ ซึ่งต่างก็ล้วนแต่เป็นพระเครื่องเนื้อชินเงินศิลปะลพบุรีทั้งสิ้น

ขึ้นชื่อว่า พระหูยาน ยอดพระคงกระพันมหาอุตม์ ซึ่งผู้เขียนกำลังนำท่านไปรู้จักนี้มิใช่ว่าจะมีแต่เฉพาะที่กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเมืองลพบุรีนี้ก็หาไม่ พระหูยานดังกล่าวยังส่งอิทธิพลไปปรากฏที่เมืองเพชรบุรีก็มี ที่ชัยนาทก็มาก รวมทั้งที่อยุธยาก็มีด้วยถึง 2 กรุทีเดียว แต่ถึงกระนั้น พระหูยาน ของแต่ละเมืองพุทธลักษณะ ก็หาได้ตรงกันไม่ ดังนั้นผู้เขียนจึงจำเป็นต้องขอนำท่านไปสู่ผืนแผ่นดินแห่งหนึ่ง ที่เรียกว่า กรุง ละโว้ หรือตั้งแต่เมื่อครั้งที่ไทยเรายังไม่มีความเป็นไทแก่ตัวเองในครั้งนั้นกันเสียก่อน เพราะจะศึกษาเรื่อง พระหูยาน กันให้ถึงแก่นแล้ว อย่างน้อยเราก็ควรได้รู้ถึงถิ่นฐานการกำเนิดของกรุพระเมื่อครั้งอดีตกันไว้บ้าง มิฉะนั้นแล้วประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับของขลังในปัจจุบันนี้ ก็จะไม่ออกรสและท่านก็อาจตกเป็นเหยื่อแห่ง ความงมงาย ไปในที่สุดด้วย
ต่อไปนี้ท่านก็จะได้พบกับ พระหูยาน กันเสียที ส่วนท่านที่สงสัยว่าชื่อพระดี ๆ มีตั้งมากมาย แต่ไหงมาเรียกท่านว่า พระหูยาน เสียเล่า เรื่องนี้พระท่านไม่เกี่ยวกับทางโลก ไม่เกี่ยวกับเรื่องของหัวหน้าครอบครัว ที่บางท่านถึงกับต้อง หูยาน กันอยู่เสมอ ๆ นั้นเลย ชื่อพระหูยานนี้เขาเรียกกันมาแต่โบราณแล้ว ถ้าท่านสงสัยก็โปรดดูภาพประกอบได้จากเรื่องนี้เสียก่อน แล้วจะเห็นว่า หูท่านยานกว่าพระเครื่องพิมพ์อื่นจริง ๆด้วย เรื่องราวของพระหูยานดูออกจะอลวนอยู่ ก่อนอื่นขอได้โปรดทำความเข้าใจกับพิมพ์ของพระแต่ละกรุให้ดีเสียก่อน เพราะว่าพระสกุลนี้จะมีทั้งพิมพ์ หน้ายักษ์ และ หน้านาง รวมทั้งพระหูยานที่ มือผี ที่สร้างไว้มากมายด้วย พระหูยานโด่งดังขนาดไหน, ใครเป็นผู้สร้างกันแน่ เราจะขอนำท่านสู่ กรุงละโว้เมื่อครั้งอดีตดังต่อไปนี้

ลพบุรี ที่ยังเป็น กรุงละโว้

ณ ใจกลางเมืองของจังหวัด ลพบุรี ปัจจุบันนี้ ถ้าหากเราถอยหลังกลับไปเมื่อประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ 15 แล้ว ณ. ที่เดียวกันนี้คือ กรุงละโว้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทหารอันยิ่งใหญ่ของขอมนั่นเอง และก็หน้าประหลาดอยู่ ที่ลพบุรีในยุครัตนโกสินทร์นี้ ก็ยังคงครองความสำคัญทางด้านการทหารไว้มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่า เมื่อครั้งยุคขอมเรืองอำนาจเลย

กรุงละโว้ เมืองสำคัญของขอมนั้น เดิมทีอยู่ในความครอบครองของชนเผ่ามอญมาก่อน จนกระทั่งพระเจ้าสุริยะวรมันที่ 1 กษัตริย์ขอมผู้เกรียงไกรได้แผ่แสนยานุภาพเข้ามาในแผ่นดินแห่งนี้แล้ว เมื่อนั้น มอญจึงหมดอำนาจไปในที่สุด ละโว้ในระหว่างกลางพุทธศตวรรษที่ 15 จึงนับเป็นระยะที่ขอมรุ่งโรจน์ด้านการทหารยิ่ง ครั้นต่อมาขอมว่างเว้นจากการสงครามเข้า กษัตริย์ขอมจึงได้หันมาเอาใจใส่ด้านการพระศาสนา มากกว่าการสงคราม เช่นได้มีการสถาปนาวัดวาอารามมากแห่งไว้ทั่วนครละโว้ โดยมีทั้งแบบ พราหมณ์ และ พุทธ คละเคล้ากันไปในยุคนั้น และก็ด้วยเหตุนี้เองทั้งสถาปัตยกรรมและปฏิมากรรม ที่ขอมลพบุรี ได้ให้กำเนิดไว้ในครั้งนั้น ส่วนหนึ่งจึงได้ปรากฏให้เราเห็นอยู่ที่จังหวัดลพบุรีมาตราบเท่าทุกวันนี้

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือที่ชาวบ้านเรียกง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า วัดใหญ่ นั้น นับเป็นอารามหลวงที่ยิ่งใหญ่ของขอม การกำเนิดของวัดนี้ประมาณว่าได้มีการสถาปนาขึ้นในยุคขอมเรืองอำนาจ เมื่อ พ.ศ. 1600 เกี่ยวกับเรื่องการกำเนิดของวัดใหญ่นี้ นักโบราณคดีบางท่านชี้ขาดว่า สร้างเมื่อ พ.ศ. 1700 และบางท่านก็ว่าในราว พ.ศ. 1800 ก็มี จุดเด่นของวัดนี้ซึ่งเราจะเห็นก่อนก็คือ พระปรางค์ใหญ่ที่ยืนผงาดอยู่เหนือแผ่นดินบริเวณนั้น และเลยลึกเข้าไปในพระปรางค์นั้นเอง ภายในกรุจะบรรจุไว้ด้วย ปฏิมากรรมรูปเคารพสมัยลพบุรี ซึ่งประมาณอายุกันไว้ว่าน่าจะถึง 800 ปี แล้วเป็นจำนวนมากอยู่ในพระปรางค์นั้น

สำหรับเบื้องหลังการพบพระเครื่องจากกรุวัดใหญ่นั้น เล่ากันว่าเมื่อประมาณ พ.ศ. 2430 ได้มีคนร้ายลอบเข้าไปเปิดกรุในพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุดังกล่าว ได้สมบัติโบราณอันมีค่าไปก็มิใช่น้อย นอกจากนั้นทั้งพระพุทธรูปและพระเครื่องอีกส่วนหนึ่ง ก็ได้ถูกคนร้ายนำออกจากกรุไปด้วยเช่นกัน จากเหตุการณ์ที่เกิดครั้งนั้นนับว่าเป็นขวัญตาแก่นักเลงพระรุ่นนั้นยิ่งนัก ทั้งนี้ก็เพราะพระเครื่องหรือพระพุทธรูปที่ขึ้นมาจากกรุ ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นพระที่แสดงออกของศิลปะ ลพบุรีที่ฝีมือเยี่ยม ๆ ซึ่งได้เห็นกันเป็นครั้งแรกอยางตื่นตาตื่นใจทีเดียว

พระหูยาน นับว่าเป็นพระเครื่องอีกพิมพ์ซึ่งได้รวมขึ้นมาจากกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ครั้งนั้นด้วยและเป็นที่ยืนยันได้เลยว่าพระหูยานที่เผยโฉมจากกรุเป็นปฐมฤกษ์จากวัดนี้ นั้นยังนับว่าเป็นพระต้นสกุล พิมพ์หูยาน ที่ไม่เคยมีมาก่อนจากที่อื่นใดเลยด้วย

เรื่องราวพระหูยานที่ลพบุรี พบจากกรุวัดใหญ่เป็นครั้งแรกนี้ ต่อมายังมีผู้พบจากกรุวัดอื่น ๆ ที่อยู่ในตัวเมืองลพบุรีอีกหลายแห่ง แต่อายุและศิลป ยังอ่อนกว่ากรุปฐมฤกษ์ เช่นที่กรุวัดรามอินทรา, วัดปืน และอีกหลายวัดที่ไม่ปรากฏหลักฐานกันมาก่อนเลย และนอกจากนั้นพระหูยานยังปรากฏว่าพบที่เมืองอื่น ๆ อีกหลายเมือง ซึ่งต่างก็รับเอาอิทธิพลของพระเครื่องพิมพ์นี้ไปสร้างกันต่อ ๆ มากอีก จนถึงสมัยอยุธยาทีเดียว

พระหูยาน พระเครื่องศิลป แบบลพบุรีที่ถือกำเนิดจากอารามแห่งกรุงละโว้เป็นแห่งแรก และแห่งหลังจากเมืองอื่น ๆ นั้น เรื่องราวของพระหูยานดังกล่าวนี้เป็นมาอย่างไรท่านผู้อ่านจะได้ทราบรายละเอียดซึ่งผู้เขียนจะขอกล่าวถึงพระของแต่ละกรุไปดังนี้

พระหูยาน วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี

พระเครื่องพิมพ์หูยานซึ่งพบจากกรุปฐมฤกษ์ที่พระศรีรัตนมหาธาตุลพบุรีนั้น ความจริงแล้วมีด้วยกันมาก พิมพ์ทีเดียว หาได้มีแต่พิมพ์ หน้ายักษ์ อย่างที่บางท่านหลงเข้าใจผิดกันมากอยู่ก็หาไม่ พระหูยานกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุนี้ เท่าที่ปรากฏอยู่ในวงการและที่เพิ่งจะมี การเปิดเผยออกมาให้รู้กันในระยะหลัง พอสรุปแยกแบบออกได้เป็น 3 ชนิดคือ
1. พระหูยาน พิมพ์ บัว 2 ชั้น
2. พระหูยาน พิมพ์ บัวชั้นเดียว หรือ หน้ายักษ์
3. พระหูยาน พิมพ์พิเศษ

พระหูยานของวัดใหญ่แต่ละชนิดจะเป็นพระเนื้อชินเงินทั้งหมด โดยพระดังกล่าวนี้ยังแยกเป็นขนาดต่าง ๆ ออกไปได้อีกหลายแบบ ซึ่งผู้เขียนจะขอเปิดเผยพระหูยานของแต่ละพิมพ์ไว้ด้วยเรื่องราวที่ควรสนใจได้ดังต่อไปนี้

พระหูยานพิมพ์ บัว 2 ชั้น

จากขบวนการพระเครื่องประเภทเนื้อชิน ซึ่งกำเนิดในลพบุรีทั้งหมดนั้น ตามที่รู้จักกันทั่วไปก็ต้องว่า พระหูยานพิมพ์หน้ายักษ์ แบบบัวชั้นเดียวนับว่าโด่งดังที่สุด แต่ที่จริงแล้ว, ยังมีพระอีกพิมพ์หนึ่งซึ่งยอดและเป็นเลิศพอ ๆ กันทีเดียว นั้นก็คือ พระหูยานบัว 2 ชั้น ซึ่งพระพิมพ์นี้นับว่าเป็นแบบต้นสกุลพระหูยานทั้งหมด และเป็นพระกรุเดียวกับ พระหูยานพิมพ์หน้ายักษ์ นั่นเอง

เรื่องพระหูยานบัว 2 ชั้นที่ผู้เขียนจะขอนำท่านไปรู้จักเป็นอันดับแรกนี้ ยังมีมากท่านทีเดียวเข้าใจว่าเป็นพระเครื่องซึ่งพบที่กรุวัดปืนนั้น เรื่องนี้เห็นจะผิดถนัด เพราะจากศิลปอันหนักแน่น, ทั้งผิวสนิมและผ้ากรุตลอดจนเนื้อชินที่ปรากฏกับองค์พระนั้น ก็แสดงให้เห็นว่าผิดกันกับของวัดปืนมากอยู่ และจากคำยืนยันของนักเลงพระรุ่นเก่าหลายท่านต่างก็ให้ความเห็นกันว่า พระหูยานบัว 2 ชั้น จะมีแต่เฉพาะที่กรุวัดมหาธาตุลพบุรีเพียงแห่งเดียวเท่านั้นเอง

พระหูยานบัว 2 ชั้นเป็นพระเนื้อชินองค์ค่อนข้างเขื่องกว่าพระหูยานหน้ายักษ์เล็กน้อยคือ สูง 6.5 ซ.ม. สุงกว่าพิมพ์หน้ายักษ์ประมาณ 1 ซม. โดยทางศิลปของพระพิมพ์นี้แล้ว จะเห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือของช่างขอมละโว้ให้จิตนาการไว้น่าชมยิ่ง พุทธลักษณะทำเป็นพระนั่งปางมารวิชัย ประทับบนฐานบัว 2 ชั้น ซึ่งทำเป็นบัวเล็บช้างกลีบซ้อน เป็นแบบบัวคว่ำบัวหงาย และระหว่างกลางบัวจะมีแซมด้วยกลีบบัวเล็กอีก 3 กลีบด้วย พระหูยานบัว 2 ชั้นนี้ ถึงแม้พระพักตร์จะมิดุดันเหมือนพิมพ์หน้ายักษ์ก็ตาม แต่การประทับนั่งแบบห่มคลุมปราศจากเครื่องประดับอันอลังการตามแบบฉบับของศิลปลพบุรีนั้นเอง กลับเพิ่มความหนักแน่นให้กับพระพิมพ์นี้ยิ่งขึ้นไปอีกโดยท่านจะเห็นทรวดทรงอันสง่างามราวกับขุนศึกแห่งเมืองละโว้ผู้แข็งแกร่งไว้กระนั้น

พระหูยานพิมพ์นี้ พระศกจะทำเป็นแบบ ผมหวี ปอยผมจะขมวดเป็นปม 3 ชั้นและนอกจากพระโอษฐ์จะแบะกว้างตามแบบฉบับ ขอม แล้ว ยังปรากฏเม็ดจุดนูนกลมที่พระนลาต อันเป็นแบบพระอินเดียไว้อีกด้วย สำหรับด้านหลังของพระพิมพ์นี้มักทำเป็นแอ่งเว้าและมีลายผ้าปรากฏไว้ด้วย นอกจากนั้นยังทำเป็นแบบหลังตันก็มี สนิมโดยมากมักจะเห็นประเภท สนิมตีนกา และเนื้อบางตอนยังจะมีไขขาวเกาะเป็นคราบฝังแน่นอยู่ด้วย บางองค์ตามซอกลึกยังมีปรอทหลงเหลืออยู่ก็มี และสิ่งที่จะปรากฏอยู่กับพระพิมพ์นี้ไว้นั้นองค์ก็คือ พระเกือบทุกองค์มักจะถูกสนิมขุดเจาะไชกินเป็นรูอยู่ตามผิวบางแห่งขององค์ก็คือ พระเกือบทุกองค์มักจะถูกสนิมขุดเจาะไชกินเป็นรูอยู่ตามผิวบางแห่ขององค์พระทั้งด้านหน้าและด้านหลัง บางองค์สนิมประเภทนี้จะเกาะกินเป็นรูอยู่ตามผิวบางแห่งขององค์พระทั้งด้านหน้าและด้านหลัง บางองค์สนิมประเภทนี้จะเกาะกินพระกร่อนจนถึงฐานหรือสนิมกินจนแขนพพระขาดไปเลยก็มี นับเป็นปฏิบัติการของสนิมที่สร้างความวิบัติให้กับพระพิมพ์นี้ตามธรรมชาติไว้อย่างน่าวิตกยิ่ง จึงนับว่าออกจะเป็นการลำบากสักหน่อยที่พวกมือผีจะผลิต พระพิมพ์นี้ออกมาได้อย่างถูกต้อง สำหรับท่านที่ประสบกับปัญหาเรื่องสนิมเช่นนี้มีอยู่ วิธีเดียวระงับสนิมขุมให้หยุดได้ก็คือ ควรชโลมไว้ด้วยน้ำมันจันทน์ อย่างน้อย 2-3 เดือนครั้ง ซึ่งเรื่องเคยได้ผลกับพระทุกองค์มาแล้ว

ปัจจุบันนี้ผู้เขียนกล้าพูดได้ว่า ท่านไม่จำเป็นต้องไปหาพระหูยานพิมพ์นี้ให้ยากเสียเวลาเปล่า นอกจากจะหลงหูหลงตา หรือจะมีอยู่กับนักเลงพระบางท่านเท่านั้นเอง จึงสรุปได้ว่าจะมีหลงอยู่ในวงการบ้างก็ไม่เกิน 10 องค์ ถ้าใครเกิดสนใจกับพระพิมพ์นี้ขึ้นมาละก้อ ถึงจะมีเงินจ่ายก็เห็นจะหาเช่าได้ยากเอาการทีเดียว เพราะขนาดเมื่อปี พ.ศ. 2490 ราคาพระหูยานบัว 2 ชั้นขณะนั้นยังเช่ากันถึงองค์ละ 500-700 บาทแล้ว ต่อมา พ.ศ. 2500 ราคาพระหูยานบัว 2 ชั้นสูงขึ้นไปอีกเป็นองค์ละ 1200 บาท พอถึง พ.ศ. 2507 กลับไม่มีพระหลงเข้าไปในสนามพระอีกเลย ส่วนราคาเช่าจะแพงไปอีกเป็นองค์ละ 2500-3500 บาทและยิ่งถึง พ.ศ. 2514-2516 ด้วยแล้วก็เป็นอันงดพูดถึงราคาเช่าได้ หากผู้ใดได้เป็นเจ้าของพระพิมพ์นี้อย่างไม่คาดถึงละก้อจงนึกเสียเถิดว่าท่านมีบุญยิ่งแล้ว ปัจจุบันนี้ พ.ศ. 2524 มีรายที่เล่นหนักรักพระพิมพ์นี้ถึงใจ ถึงกับปรารภฝากผู้เขียนมาว่า ถ้าเป็น พระหูยานบัว 2 ชั้น องค์สวย ๆ ขนาดแชมป์ละก้อ ราคาเช่าองค์ละ 70000- 80000 บาท เขาก็ยังสู้

พระหูยาน บัวชั้นเดียว (หน้ายักษ์)

บัดนี้, ท่านก็ได้ทราบถึงเรื่องราวของ พระหูยานบัว 2 ชั้น ผ่านไปแล้ว และนั่นก็คือ ขุนศึกแห่งกรุงละโว้ พระหูยานพิมพ์เอก ซึ่งพบที่กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเป็นครั้งแรก และต่อไปนี้ผู้เขียนจะนำท่านไปพับกับ พระหูยาน พิมพ์ บัวชั้นเดียว (หน้ายักษ์) ซึ่งเป็นพระกรุเดียวกันกับพิมพ์บัว 2 ชั้น อีกพิมพ์หนึ่งเป็นอันดับต่อไปได้แล้วครับ

ว่าด้วยเรื่องพระเครื่องจอมอิทธิฤทธิ์ในด้านมหาอุตม์ คงกระพันที่โด่งดับเกรียงไกรแล้ว มากท่านทีเดียวจะต้องยกให้กับพระร่วงลพบุรี, พระหูยาน, พระท่ากระดาน หรือไม่ก็พระปรุหนัง, พระนารายณ์ทรงปืน, พระร่วงหลังรางปืน หรือถ้าไม่ใช่พระกรุก็มักจะเอ่ยถึงพระประเภทปิดทวารทั้งเก้าที่เกจิอาจารย์ยุครัตนโกสินทร์ได้สร้างไว้เช่นพระแร่บางไผ่, พระวัดทอง, พระวัดหนังหรือพระวัดท้ายย่านเป็นต้น แต่ทุก ๆ ครั้งที่มีการเอ่ยถึง พระปิดตา ดังกล่าวนี้ เราก็มักจะได้ยินเขาเอ่ยถึง พระหูยาน รวมอยู่ด้วยเสมอมา

ความจริงแล้ว, พระหูยานหน้ายักษ์พิมพ์บัวชั้นเดียวนี้ ถ้าจะพูดถึงความนิยมกันละก้อนับว่าท่านนำหน้ากว่า บัว 2 ชั้น มากอยู่ ทั้งนี้เพราะพระได้มีขึ้นจากกรุมากกว่า และให้โอกาสแก่ผู้ที่จะแสวงหาท่านก็หาได้ไม่ยากนัก ยิ่งต่อมาได้มีผู้นำท่านไปใช้กันมากและได้ประสบการณ์เห็นคุณค่าในพุทธคุณอันเกรียงไกรของท่านจนดังไปทั่วทุกทิศนั่นแหละ พระหูยานพิมพ์บัวชั้นเดียว จึงนับว่าชื่อเสียงออกจะดังล้ำหน้าพิมพ์บัว 2 ชั้นไปมาก แต่ทว่ามองกันในเชิงศิลปะหรือด้านราคาการเช่าของพระหูยานบัว 2 ชั้นแล้ว ก็ยังยากอยู่ที่พิมพ์บัวชั้นเดียวยังจะล้ำหน้าไปได้ ดังท่านจะได้ทราบจากเรื่องราวต่อไปนี้

ทำไมจึงเรียกว่า หน้ายักษ์

ผู้เขียนก็ให้ฉงนอยู่เพราะลำพังแต่ใช้คำว่าพระหูยาน ก็เล่นเอาบางท่านอาจต้องคิดเลยไปไกลอยู่แล้ว ว่าทำไมท่านจึง หูยาน แต่พอเห็นหูเข้าท่านก็ยานจริง ๆ ด้วย เท่านั้นยังไม่พอแถมยังต่อคำว่า หน้ายักษ์ เพิ่มเข้าไปอีกเลยดูไปกันใหญ่ ว่าด้วยเรื่องการตั้งชื่อพระเครื่องแต่ละพิมพ์สมัยนั้น โดยมากผู้พบพระมักจะตั้งชื่อกันเสียเอง หรือเพียงการพูดเล่น ๆ ว่าท่านมีพุทธะลักษณะคล้ายอย่างโน้นอย่างนี้ ที่เห็นดีก็เลยพูดกันต่อมาเลยติดปากแก้ไม่ได้ อย่างเช่นเรื่องนี้ ผู้เขียนก็ต้องเรียกตามนักเลยพระรุ่นเก่า เขาเรียกกันมานานแล้ว และก็เชื่อว่ายังจะต้องเรียกกันอยู่จนทุกวันนี้ว่า พระหูยานหน้ายักษ์ อีกนั่นแหละ ทั้ง ๆ ที่ควรเรียกกันว่า บัวชั้นเดียว มากกว่าครับ

ไหน ๆ ก็คุยกันมาถึงแค่นี้แล้ว จะหยุดเสียก็ดูกระไรอยู่เดี๋ยวเกิดมีหน่อเนื้อเชื้อพระวงศ์ของทศกรรฐ์ท่านโวยมาว่า เอ๊ะ ก็หน้าท่านเป็นยักษ์แล้วทำไมพระถึงไม่มีเขี้ยวล่ะ โดนเข้าอย่างนี้ละก้อจะยุ่งกันใหญ่ จึงขอแก้เกี้ยวแทนนักเลงพระรุ่นเก่าต่อไปไว้สักนิดว่า ที่เรียก หน้ายักษ์ นั่นเพราะหน้าท่านเคร่งเครียดดุดันไปหน่อยเท่านั้นเอง การที่มียักษ์มายุ่ง ๆ อยู่เขานำมาเป็นการเปรียบเทียบเท่านั้นเอง ถ้าท่านคิดว่าผู้เขียนจะออกนอกเรื่องไปหน่อยละก้อขอให้นึกเสียว่าคุย แก้ง่วง ก็แล้วกัน เพราะอย่างน้อยการนำเอาเรื่องรอบ ๆ สนามพระมาคุยประกอบไว้นี้ ก็เป็นสาระอย่างหนึ่งที่นักเลงพระควรจะทราบไว้บ้างดีกว่าที่เราจะไม่รู้อะไรเอาเสียเลย

พระหูยาน หน้ายักษ์ พิมพ์บัวชั้นเดียวหรือ ขุนศึกษาแห่งกรุงละโว้ องค์ที่ 2 ซึ่งพบจากกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุลพบุรีนั้น การกำเนิดของท่านอยู่ในระหว่างทางสองแพร่งของศาสนา เพราะกรุงละโว้ยุคต้นขณะนั้นยังมีผู้นับถือ พราหมณ์กับพุทธ การสร้างปฏิมากรรมรูปเคารพทั้งพระพุทธรูป หรือพระเครื่องรางของขลังจึงอยู่ในลักษณะที่เคร่งเรียดโดยเฉพาะพรคะหูยานพิมพ์หน้ายักษ์นี่ด้วยแล้ว ศิลปซึ่งเกิดจากจินตนาการของช่างลพบุรียุคนั้นจึงได้แสดงอารมณ์ฝากไว้กับพระหูยานหน้ายักษ์นี้ไว้มากอยู่ บ้างก็ว่าความเร้นลับจากพระพักตร์ของพระหูยาน หน้ายักษ์ นับเป็นส่วนหนึ่งที่ช่างจงใจแสดงความยิ่งยงในความเป็นมหาอำนาจทางทหารของเขา ฝากไว้กับพระหูยานพิมพ์นี้ราวกับ ขุนศึกแห่งกรุงละโว้กระนั้น

พระหูยานบัวชั้นเดียว หรือ หน้ายักษ์ นี้ พุทธลักษณะสร้างเป็นพระปางมารวิชัย องค์พระประทับนั่งบนบัวเล็บช้างห้ากลีบ พระศกทำเป็นแบบผมหวีพระเกศทำเป็นมุ่นผมขมวดปมไว้ 2 ชั้น ดูคล้ายกับมอญโพกผ้า สัญลักษณ์สำคัญของพระพิมพ์นี้ก็คือ ใบหูทั้ง 2 ข้างจะยานยาวเป็นพิเศษเกือบติดบ่า โดยเฉพาะรายละเอียดด้านพระพักตร์นั้นจะงามคมชัดเจนมาก งามอย่างที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า งามเห็นหูตา กันทีเดียว

พระหูยานลพบุรีแบบหน้ายักษ์ นับเป็นพระเครื่องเนื้อชินองค์เดียวของกรุวัดพระศรีฯที่ช่างลพบุรีให้จินตนาการไว้อย่างประณีตเป็นพิเศษ นอกจากความงามของศิลปแล้ว การแสดงออกทางพระพักตร์ของพระหูยาน ยังให้ความประทับใจเร้าอารมณ์แก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก จนบางครั้งเราอาจเห็นท่านแย้มยิ้มราวกับเทพเจ้าแห่งความปราณี แต่บางครั้งจากมุมปากที่แสยะกว้าง ก็ทำให้เราเห็นท่านดุดันราวกับขุนศึกผู้อยู่ในอารมณ์อันเคร่งเครียดกระนั้น อย่างนี้นี่แหละผู้เขียนจึงต้องต่อท้ายชื่อพระเครื่องพิมพ์นี้ไว้ว่า ขุนศึกแห่งกรุงละโว้ ไว้ด้วยประการนี้

ขึ้นชื่อว่าพระเครื่องเมืองลพบุรีแล้วไม่เคยสร้างความผิดหวังให้กับผู้ใช้เลย มากท่านที่ไดด้ประสบการณ์มาแล้วต่างก็เข้าใจว่าพระหูยานที่เยี่ยมยอดนั้น ต้องเป็นพิมพ์หน้ายักษ์ลพบุรีก็ถูกอยู่ แต่เหนือขึ้นไปแล้วนักเลงพระเครื่องส่วนหนึ่งเท่านั้น จึงจะรู้ว่าจักรพรรดิพระเครื่องเนื้อชินยุคละโว้นั้น อันดับ 1 คือ พระหูยานบัว 2 ชั้น รองลงมาจึงจะได้กับ พิมพ์บัวชั้นเดียวหน้ายักษ์ และจากพิมพ์หน้ายักษ์นี่เอง ก็ยังมีคู่แข่งในระดับเดียวกันที่น่ากลัวที่สุด แต่ก็หายากที่สุดก็คือ พระหูยานวัดปืน ซึ่งพระกรุนี้ก็เป็นพระลพบุรีด้วยกันนั่นเอง อย่างไรก็ตาม พระหูยานดังกล่าวนี้ต่างก็เพียบแปล้ด้วยพุทธคุณด้านมหาอุตม์ คงกระพันชาตรี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเชื่อถือได้มาแต่อดีตเรื่อยมาจนตราบเท่าทุกวันนี้

พระหูยาน พิมพ์พิเศษ

ยาวไปหน่อยสำหรับพระหูยานบัวชั้นเดียว คุยจนเกือบจะลืมไปว่า ยังมีพระหูยานพิมพ์พิเศษอีกพิมพ์หนึ่ง เรื่องราวของพระหูยานพิมพ์พิเศษที่ผมจะนำมากล่าวนี้ ขอบอกกันไว้เป็นความรู้เท่านั้น เพราะขณะนี้อย่าว่าแต่จะหาเช่าเลย ถึงจะขอชมจากผู้อื่นก็นับว่ายากเสียแล้ว ประการแรกก็เห็นจะเป็นเพราะเป็นของชนิด 1 ในร้อยในพัน ซึ่งก็เป็นของยอดหายากอยู่ก่อนแล้ว ประการหลังก็เห็นจะได้กับเจ้าของเขาหวงมากกว่าครับ

พระหูยาน พิมพ์พิเศษ นี้ ในชีวิตของการเป็นนักเลงพระของผมซึ่งคว่ำหวอดอยู่ในวงการมาเกือบ 30 ปีแล้ว ก็เพิ่งจะได้เห็นพระหูยานประเภททำเป็นซุ้มเรือนแก้วก็เพียง 2 องค์เท่านั้น ที่ทำเป็นมีปีก โดยไม่มีซุ้มก็เคยเห็น และที่เหลือปีกไว้เฉพาะช่วงไหล่วิ่งขึ้นไปครอบพระเศียรไว้แล้วมีเส้นแฉรัศมีจนคล้ายประภามณฑลก็มี ซึ่งแต่ละพิมพ์ก็ล้วนแต่เป็นของ ยอดน้อยทั้งสิ้น

พระหูยานดังกล่าวส่วนมากมักจะมีแต่เฉพาะที่กรุวัดพระศรีรันตมหาธาตุเท่านั้นและก็เป็นพระที่ขึ้นจากกรุมานานแล้วด้วย ทั้งนี้จะสังเกตได้จากพระแต่ละองค์จะถูกสนิมกินจนขาดกลางองค์ก็มี ที่แหว่งไปเสียก็มาก และนอกจากผิวสนิมจะค่อนข้างดำแล้ว เกือบทุกองค์สำหรับพระพิมพ์พิเศษนี้ มักจะมีไขขาวแซมผิวอยู่ทั่ว ๆ ไปด้วย

ท่านผู้ใดที่สนใจกับพระ พิมพ์พิเศษ นี้ ถ้าจะให้สนนราคากันแล้ว ออกจะเป็นเรื่องตอบยากพอ ๆ กับของที่หายากอยู่แล้วนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าถ้าชอบเสียอย่างถูกแพงไปบ้างก็ไม่เป็นไร อย่าให้ของนั้นเป็นพระ มือผี ก็แล้วกัน

ยอดพระคงกระพันชาตรี

ว่าด้วยเรื่องพุทธคุณอันเกรียงไกร ของพระหูยานหน้ายักษ์เมืองลพบุรีกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นของเก่าหรือกรุใหม่ ต่างก็มีประสบการณ์กับผู้ใช้มาแล้วมากราย พระหูยานนับเป็นพระเครื่องเนื้อชินที่ทั่วไปได้ยกย่องและยอมรับกันว่า พระหูยานหน้ายักษ์ เหมาะกับชายชาตรีผู้ชอบเผชิญโชคดีนักแล

พระหูยาน ท่านดีอย่างไรโปรดได้ติดตามเรื่องราวน่าระทึกใจในความขลังของพระหูยาน พระเนื้อชินนี้ได้แล้วครับ เรื่องได้เกิดขึ้นกับ ผู้ใหญ่บ้าน เล็ก อยู่ที่ตำบลตะลุงที่เมืองลพบุรีนั่นเอง เขาได้ถูกคนทำร้ายรุมซัลโวเขาด้วยปืน ขณะที่นั่งเรือไปงานศพ คนร้ายประมาณ 3-4 คนดังกล่าวได้ซุ่มอยู่ใกล้บริเวณวัดแล้วรุมยิงไปยัง ผู้ใหญ่เล็ก จนถึงกับตกน้ำตกท่าไปเลย แต่เมื่อภายหลังเรื่องได้สงบแล้ว ผู้ใหญ่เล็กจึงรู้ว่า ตนได้ถูกกระสุนคนร้ายเข้าอย่างจังที่บริเวณอก ซึ่งนอกจากจะปรากฏรอยช้ำไหม้เป็นดวงแดง ๆ แล้ว ที่เสื้อก็ยังมีรอยกระสุนผ่านทะลุให้เห็นอีกด้วย ผู้ใหญ่บ้านเล็กรอดตายและหนังเหนียวได้อย่างปฏิหาริย์ครั้งนั้น เพราะผู้ใหญ่คนนี้ห้อยพระเครื่องเป็นประจำตลอดเวลา พระองค์นั้นก็คือ พระหูยานกรุใหม่ พิมพ์กลาง ที่ยังปรากฏห้อยอยู่กับคอเขามาจนทุกวันนี้เท่านั้น

นอกจากนั้น พระหูยาน พระเครื่องผู้เกรียงไกรด้านคงกระพันชาตรี ยังเป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อไม่กี่ปีนี้อีก บุรุษผู้ตายมาอย่างปฏิหาริย์อีกรายนี้ก็คือ คุณบุญรอด พุ่มทอง ซึ่งเป็นนายตรวจรถ บ.ข.ส. อยู่ที่นครสวรรค์ เหตุเกิดขึ้นในขณะที่นายบุญรอดกำลังขี่จักรยานผ่านหน้าวิก สว่างวงศ์ อำเภอตาคลี ได้ถูกคนร้ายลอบยิงด้วยปืนพกขนาด 11ม.ม. ถึง 4 นัด จนตัวเองต้องพลิกคว่ำตกลงจากรถทันที ใครที่เห็นเหตุการณ์ครั้งนั้นต่างก็ว่านายตรวจรถผู้ถูกคนร้ายลอบยิงเอานี้มีหวังเท่งทึงไปคุยกับยมบาลแน่แล้ว แต่เขาหาเป็นเช่นนั้นไม่ นายบุญรอดไม่ตายทั้ง ๆ ที่เสื้อพรุนเป็นรู เนื้อช้ำเป็นดวง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฝีมือปืนคนร้ายนั้นแม่นเอาการทีเดียว และถ้าผู้ยิงได้ทราบว่าผู้ต้องประหารของเขานั้น ยังยืนอยู่เหนือมัจจุราชได้แล้ว เขาเองนั่นแหละอาจช็อกตายไปก็ว่าได้

เรื่องรอดตายของนายตรวจรถ บ.ข.ส. ที่นครสวรรค์ครั้งนั้น ยังลือลั่นมาจนเดี๋ยวนี้ว่า ถ้านายบุญรอดไม่ได้พระหูยานพิมพ์หน้ายักษ์ กรุเก่า ของลพบุรีห้อยติดอยู่ เมื่อคราวเกิดเหตุครั้งนั้นไว้แล้ว เขาก็คงไม่ได้เดินลอยชายอยู่มาจนทุกวันนี้แน่ ๆ

นั่นเป็นเรื่องของพุทธคุณที่มีผู้ประสบการณ์มาแล้วจาก พระหูยานลพบุรี เรื่องของพระสกุลนี้ที่ลพบุรียังมีอีกหลายกรุหลายพิมพ์ ที่เพชรบุรีก็มี, ที่ชัยนาท หลายวัดก็มีสร้าง, ที่เมืองอุตรดิตถ์ก็มีด้วย และเลยเข้ามาจนถึงเมืองอยุธยาก็มีผู้พบพระหูยานถึง 2 กรุ นั่นย่อมแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของ พระพิมพ์หูยาน โดย ช่างขอม เป็นผู้ให้กำเนิดไว้ ณ. กรุงละโว้เป็นแห่งแรกนั้น ได้ใหญ่ยิ่งจน ช่างอู่ทองและ ช่างอยุธยา ยังต้องก้มหัวให้กับยอมรับเอาอิทธิพลศิลปของ พระหูยาน มาเป็นแบบอย่างโดยมีการสร้างกันต่อ ๆ มาจนถึงในรัชกาลเจ้าสามพระยาทีเดียว

โดยอาจารย์ ประชุม กาญจนวัฒน์