คุณอาจเคยมีประสบการณ์ในชีวิตที่ได้มีโอกาสได้เหยียบย่างเท้าเข้าไปในบ้านของใครซักคนแล้วได้สัมผัสกับพื้นไม้ธรรมชาติ จนทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในธรรมชาติ และคุณก็แอบอิจฉาเจ้าของบ้านที่สามารถซื้อไม้จำนวนมากมาปูพื้นบ้านได้ทั้งหลัง
แต่ช้าก่อน! คุณกำลังเข้าใจผิดแล้ว บ้านหลังที่คุณเดินเข้าไปนั้นเขาตกแต่งด้วย พื้นไม้ลามิเนต (Laminate Wood Floor) ต่างหาก แต่ที่ทำให้คุณรู้สึกว่าเป็นไม้จริงๆ ก็เพราะพื้นไม้ลามิเนตเป็นวัสดุที่ใช้ทดแทนไม้พื้นธรรมชาติที่นิยมกันมาก ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูคล้ายไม้จริงจนแทบแยกไม่ออก แต่พื้นลามิมีลวดลายสีสันให้เลือกใช้หลากหลายในราคาที่ย่อมเยากว่าไม้จริง และที่สำคัญก็คือการติดตั้งและการดูแลรักษาง่ายมากๆ ส่วนในเรื่องความแข็งแรงทนทานนั้น ไม้พื้นลามิเนตเหมาะจะใช้งานเป็นพื้นไม้ในบ้านเป็นอย่างยิ่ง
พอเล่ามาถึงตรงนี้คุณคงอยากรีบไปเลือกหาซื้อไม้พื้นลามิเนตเพื่อไปตกแต่งพื้นบ้านคุณแล้วใช่ไหม แต่ช้าก่อน เรามาดูรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อนจะตัดสินใจไปร้านวัสดุ เพราะไม้พื้นลามิเนตมีหลากหลายเกรดมาก
โดยหลักในการเลือกไม้พื้นลามิเนตเพื่อนำมาใช้งาน คุณต้องทำความรู้จักกับค่า AC Rating ซะก่อน
ค่า AC Rating เป็นตัวบ่งบอกถึงความทนทานของพื้นลามิเนตแต่ละชิ้น โดยค่า AC Rating นี้ได้รับการกำหนดค่ามาตรฐานโดย European Producers of Laminate Flooring (EPLF)
ไม้พื้นลามิเนตจะสามารถแบ่งระดับ AC Rating เป็น 3 ระดับ ได้แก่
- Heavy (รองรับน้ำหนักได้มาก ความทนทานสูง)
- General (รองรับน้ำหนักระดับปานกลาง)
- Moderate (รองรับน้ำหนักทั่วไป)
เพื่อให้ง่ายกับการเลือกใช้งาน จึงได้มีการกำหนดค่า AC Rating ให้กับไม้พื้นลามิเนต เพื่อให้จดจำได้ง่ายๆ ดังนี้
AC 1 : 21 (ที่พักอาศัย, เดินผ่านปานกลาง)
- เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องรับแขก
AC 2 : 22 (ที่พักอาศัย, เดินผ่านทั่วไป)
- เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่นหรือห้องรับประทานอาหาร
AC 3 : 23 (ที่พักอาศัย, เดินผ่านมาก)
- เหมาะสำหรับใช้งานได้ทุกที่
AC 3 : 31 (สำหรับพื้นที่การค้า, เดินผ่านปานกลาง)
- เหมาะสำหรับห้องในโรงแรมหรือ Office เล็กๆ
AC 4 : 32 (สำหรับพื้นที่การค้า, เดินผ่านทั่วไป)
- เหมาะสำหรับสำนักงาน, ภัตตาคาร, ร้านเสริมสวย, คาเฟ่
AC 5 : 33 (สำหรับพื้นที่การค้า, เดินผ่านมาก)
- เหมาะสำหรับอาคารสาธารณะ, ห้างสรรพสินค้า
รู้ละเอียดขนาดนี้แล้ว รีบไปซื้อมาตกแต่งบ้านไว้อวดเพื่อนๆ กันเลยดีกว่า