ลำดับเหตุการณ์ “หนุ่มหึงโหด” ซัลโว 8 นัด ดับคาที่ “เมีย-น้องสาวเมีย-แม่เมีย”

ข่าวอาชญากรรม ภัยสังคม

1.เมื่อวานนี้ (3 ก.ค.63) ได้เกิดเหตุเหตุระทึกขวัญกลางเมืองนครพนม เมื่อมีคนร้ายก่อเหตุกระหน่ำยิง “เมีย-น้องเมีย-แม่เมีย” ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 ศพ ทั้งหมดเป็นผู้หญิง บริเวณถนนตัดใหม่ อ.เมือง จ.นครพนม

2.ที่จุดเกิดเหตุพบศพน.ส.จิตรา เชียงไบ อายุ 23 ปี พร้อมด้วยน.ส.สุจิตรา เชียงไบ น้องน.ส.จิตรา และนางลาวัลย์ เชียงไบ มารดาของน.ส.จิตรา ถูกยิงเสียชีวิตริมถนน

3.วันนี้ (4 ก.ค.63) เวลา 08.00 น. พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี คุมตัวนายนพดล มือปืนก่อเหตุยิง 3 ศพมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพถนน 4 เลนสายดังกล่าว หน้าตลาดนัดคลองถมมหาสิทธิโชค ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบร่วม 50 นาย

4.จุดแรก ตำรวจนำตัวนายนพดล ชี้จุดบริเวณจุดจอดรถกระบะวีโก้ ทะเบียน งบ 1003 ชลบุรี มีผู้ต้องหานั่งขับ น.ส.สุจิตรา แฟนสาวนั่งเบาะข้างคนขับ ก่อนมีปากเสียงกันบนรถ

-น.ส.สุจิตรา ได้โทรศัพท์ไปเรียก น.ส.จิตรา น้องสาวและนางลาวัลย์ แม่ มา

-น้องเมีย-และแม่ จอดรถ จยย.หน้ารถกระบะฝั่งขวา

-น.ส.จิตรา ซึ่งนั่งซ้อนท้ายนางลาวัลย์แม่ ตรงไปที่ประตูหน้าฝั่งซ้ายรถกระบะ

-น.ส.สุจิตรา แฟนสาวมือปืนได้เตรียมลงจากรถ

-น.ส.จิตรา น้องสาว น.ส.สุจิตรา ได้ปรี่เข้าชกหน้านายนพดล 1 ครั้ง นายนพดลจึงมีปากเสียงด่าทอ ก่อนที่จะคว้าจับมือ น.ส.จิตรา ส่วนนางลาวัลย์ก็ขวามือ น.ส.จิตรา ลูกสาวไว้

5.นายนพดล ผู้ต้องหาและมือปืน ได้เอื้อมมือไปหยิบอาวุธปืน 9 ม.ม. ซีแซดในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล ก่อนจ่อยิง น.ส.จิตรา 1 นัดล้มคว่ำ ยิงนางลาวัลย์ แม่ยาย เป็นรายที่ 2 ล้มคว่ำริมฟุตบาธ ก่อนจะเดินอ้อมวนหลังรถกระบะ มาจ่อยิง น.ส.สุจิตรา แฟนสาว 1 นัดที่ศีรษะ ก่อนเดินวนรอบศพมาจ่อยิงสีข้างอีก 1 นัด แต่จำไม่ได้ว่ายิงไปทั้งหมดกี่นัด

6.หลังก่อเหตุยิง 3 ศพเสร็จ นายนพดลได้ถอดแม็กกาซีนออกจากปืนวางไว้ที่ท้ายกระบะรถ จึงเดินวนขวารถกระบะอีกรอบเพื่อหาโทรศัพท์มือถือ เพื่อโทรแจ้งตำรวจแต่ไม่พบ

7.ขณะนั้นมีรถเก๋งสีขาวพลเมืองดีจอดท้ายรถ จึงให้พลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งตำรวจเพื่อมอบตัว

8.นายนพดลนั่งรอตำรวจนาน 15 นาที นึกอยากจะยิงตัวตายตามไปด้วย แต่นึกได้ว่าต้องไปรับบุตรสาววัย 8 ขวบที่เรียนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง

9.นายนพดลจึงเปลี่ยนใจไม่ฆ่าตัวตาย ก่อนนำแม็กกาซีนและปืนที่แยกไว้ ใส่กระเป๋าสะพายก่อนขับรถ จยย. ของแม่ยายที่มาจอดหน้ารถ ไปรับบุตรสาวที่ย้ายมาจาก จ.ชลบุรี

10.จุดที่ 2 หน้าร้านเล็กประดับยนต์ สามแยกปากทางเข้าถนนมหาสิทธิโชคตัดถนนนิตโย จุดที่ตำรวจขับรถไล่ตามจากโรงเรียน ก่อนล้อมจับกุมตัวได้ในที่สุด

11.จุดที่ 3 จุดสุดท้ายที่หน้าบ้านเช่าบ้านเอื้ออาทร นายนพดลผู้ต้องหา จอดรถกระบะก่อนลดกระจกหน้าซ้ายตะโกนเรียก น.ส.สุจิตรา แฟนสาว ขึ้นรถเพื่อไปรับบุตรสาวตนที่เลิกเรียน ก่อนไปจอดยังจุดเกิดเหตุก่อเหตุสลดรัวยิง 3 ศพดังกล่าว

12.พ.ต.ท.จีรุฏฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาวุธปืนที่นายนพดล ใช้ก่อเหตุยิงแฟนสาว น้องสาวและแม่ พบกระสุนในรังเพลิงค้างอยู่ 6 นัด หลังสอบถามผู้ต้องหาว่ามีกระสุนในรังเพลิง 14 นัด แต่ผู้ต้องหาจำไม่ได้ว่ายิงไปกี่นัด ซึ่งคาดว่าผู้ต้องหายิงไปทั้งหมด 8 นัด จึงตรวจยึดไว้เป็นวัตถุพยานที่ใช้ก่อเหตุ หลังทำแผนเสร็จได้คุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนเพิ่มเติมอีกรอบที่ สภ.เมืองนครพนม ต่อไป

13.เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายนพดล มือปืนโหดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองดดยผิดกฎหมาย พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

14.นายไพจิตร วัย 60 ปี สามีนางลาวัลย์ พ่อ น.ส.สุจิตรา และ น.ส.จิตรา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่บ้านกับ น.ส.สุจิตรา บุตรสาวที่ทำขนมท้องม้วนอยู่กับภรรยาตน สาเหตุที่นายนพดล ก่อเหตุน่าจะมาจากความหึงหวงสามีเก่าที่ถูกรางวัลที่ 1 ตนขอให้ตำรวจคัดค้านการประกันตัว

“มือปืนคนนี้ให้ประหารชีวิตสถานเดียว หากประกันตัวออกมามันจะฆ่าตนอีก เมื่อวานเคยขู่ฆ่าตนบอกว่ามึงอย่ามายุ่ง ถ้าประกันออกมามันมีลูกปืน มันบอกจะยิงให้ตายยกครัวตามกันอีกรอบ ต่อจากนี้ไปคงต้องอยู่เลี้ยงดูหลานชายที่เกิดกับสามีเก่าที่ถูกรางวัลที่ 1 และบุตรสาววัย 8 ขวบซึ่งเป็นลูกติดเมียเก่าผู้ต้องหา”

15.น.ส.รัชดาภรณ์ วัย 25 ปี (เป็นทอม) แฟนสาว น.ส.จิตรา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายนพดล มือปืนได้ว่าจ้างคนติดตาม น.ส.สุจิตรา ไปที่ จ.ขอนแก่น เพื่อนำบุตรชายที่เกิดจากสามีเก่าที่ถูกรางวัลที่ 1 ไปตรวจดีเอ็นเอ ว่าเป็นบุตรชายที่เกิดร่วมกันจริงหรือไม่ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอรับสิทธิสวัสดิการจากรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ที่สามีเก่า น.ส.สุจิตรา ทำงานก่อนถูกรางวัลที่ 1 ในภายหลัง

16. ศพทั้ง 3 คนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญกลางเมืองนครพนม ยังอยู่ที่ รพ.นครพนม ช่วงบ่ายวันเดียวกันจะเคลื่อนไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่สถานภาวนาดอนจิก บ.ท่าค้อ หมู่ 4 ต.ท่าค้อ อ.เมือง ก่อนจะประกอบพิธีฌาปนกิจในวันที่ 6 ก.ค. ต่อไป