วิลเมนต์ ลีออง (Willment Leong – เชฟวิลเมนต์) | ประวัติส่วนตัว – ข่าวล่าสุด – ข้อมูลล่าสุด

+ประวัติบุคคล

วิลเมนต์ ลีออง (Willment Leong) ชื่อที่เป็นที่รู้จัก “เชฟวิลเมนต์” เกิดเมื่อ – อายุ – ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้องกับ เชฟวิลเมนต์ ลีออง

“เชฟวิลเมนต์” เผยในครัวจริง “ดุ” กว่าในรายการ เพราะ “คนทำอาหาร” ต้องมี “จรรยาบรรณ”

ประวัติของ เชฟวิลเมนต์ ลีออง

เชฟวิลเมนต์ ลีออง เป็นชาวสิงคโปร์ อยู่เมืองไทยมาประมาณ 22 ปี

เมื่อวัยเยาว์ คุณพ่อของเชฟวิลเมนต์ ลีออง เป็นพ่อค้าขายผลไม้ข้างถนน คุณแม่เป็นแม่บ้าน

ประวัติการศึกษา

  • จบมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3)
  • ศึกษาต่อโรงเรียนทำอาหารหลักสูตร 1 ปี แต่เรียนไม่จบ สอบเท่าไหร่ก็ไม่ผ่าน

การทำงาน

ปี พ.ศ. 2530-2534 เริ่มทำงานพร้อมกัน 2 ตำแหน่ง

1. โรงแรมแรฟเฟิลส์ สิงคโปร์ ตำแหน่งเทรนนี (ฝึกงาน) เงินเดือน 16,000 บาท ทำงาน 6.00 – 14.00 น.

2. ร้านอาหารในตำแหน่งเชฟใหญ่ เงินเดือน 50,000 บาท (อัตราเงินเมื่อ 34 ปีที่แล้ว) ทำงาน 16.00 – 24.00 น.

ปี พ.ศ. 2535-2539 ลาออกจากงานร้านอาหาร ทำงานที่โรงแรมแรฟเฟิลส์ สิงคโปร์ เพียงตำแหน่งเดียว

ปี พ.ศ. 2540 – 2542 ไปทำงานที่กัมพูชา ตำแหน่ง Sous Chef โรงแรมในเครือแรฟเฟิลส์ สิงคโปร์

– หน้าห้องพักมีทหารเฝ้า 4 คนทุกคนถือปืน AK47 ทุกคืนได้ยินแต่เสียงปืน เพราะช่วงนั้นยังมีการสู้รบ

– เชฟวิลเมนต์ ลีออง ต้องหาทีมงาน เพื่อเปิดห้องอาหารให้ได้ คนอื่นทำงาน 9 ชั่วโมง แต่ เชฟวิลเมนต์ ลีออง ต้องทำงานถึง 11 ชั่วโมง

– ปรากฏว่าทำออกมาดี 2 ปีผ่านไป ทางแรฟเฟิลส์บอกว่าคุณไม่ต้องอยู่กัมพูชาแล้ว ไปอยู่กรุงเทพฯ ทำห้องอาหารด็อกเชง

ปี พ.ศ. 2543-2546 เปิดอาหารด็อกเชง ที่โรงแรมเมอร์ชั่น คอร์ท ที่ประเทสไทย

– ทำได้ 3 ปี แต่อาหารฟิวชั่นยังไม่เป็นที่นิยมของคนไทย ทางแรฟเฟิลส์จึงย้ายไปเปิดในโรงแรมที่สเปน

– เชฟวิลเมนต์ ลีออง ไม่ได้ย้ายไปด้วย เนื่องจาก โรงแรมเมอร์ชั่น คอร์ท จให้อยู่ต่อในตำแหน่ง Executive Sous Chef

ปี พ.ศ. 2547 เปิดห้องอาหารใหม่ให้เครือ ราฟเฟิลส์ที่เข้ามาบริหารโรงแรมปาร์ค นายเลิศ

ปี พ.ศ. 2548-2555 ย้ายกลับมาทำงานในตำแหน่งCulinary Director ที่ Swissotel Le Concorde Bangkok (เมอร์ชั่น คอร์ท เดิม)

ปี พ.ศ. 2556 ลาออกมาทำงานให้กับ Thailand Culinary Academy

เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเด็กไทยและอาชีพเชฟไทยทุกคนที่มีใจรักการทำอาหาร มีศรัทธา และอยากพัฒนาฝีมือตัวเอง ได้มีโอกาสแสดงศักยภาพให้ทั่วโลกได้รู้จัก ด้วยการฝึกฝนกันอย่างหนัก และส่งพวกเขาไปเข้าร่วมแข่งขันในเวทีอาหารระดับนานาชาติ

อ้างอิง
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/739392