“สหรัฐ”ระบุ “จีน” เล็งใช้ “ไทย” เป็น “ฐานปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ทางทหาร” 

ข่าวด่วนเกาะกระแส

(2 กันยายน 2563) รายงานประจำปีของกระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า จีนใช้ เมียนมา สิงคโปร์ ไทย และอินโดนีเซีย เป็น “ฐานปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ทางทหาร” ให้ครอบคลุมมหาสมุทรอินเดีย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐเผยแพร่รายงานประจำปีความยาว 200 หน้า ชื่อ “การพัฒนาทางทหารและความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับสาธารณรัฐประชาชนจีน 2020” มีเนื้อหาในตอนหนึ่งระบุว่า “มีความเป็นไปได้สูง” ว่าจีนกำลังพิจารณาเมียนมา ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ปากีสถาน และศรีลังกา ตลอดจนอีกหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียกลางและทวีปแอฟริกา เพื่อเป็นที่ตั้งของ “ฐานปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ทางทหาร” ให้ครอบคลุมมหาสมุทรอินเดีย

ขณะเดียวกัน รายงานของเพนตากอนยังกล่าวถึงการที่จีนตั้งฐานทัพนอกประเทศแห่งแรกที่จิบูตี บริเวณจะงอยแอฟริกา เมื่อปี 2560 คือการตั้งต้น “ความใฝ่ฝัน” ของรัฐบาลปักกิ่ง ที่จะขยายอิทธิพลทางทหารในมหาสมุทรอินเดีย แม้จนถึงตอนนี้จีนยืนกรานว่าเป็นฐานปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมเป็นหลักก็ตาม

ต่อมารัฐบาลวอชิงตันยังเชื่อว่า รัฐบาลกัมพูชาของนายกรัฐมนตรี สมเด็จฮุน เซน “บรรลุข้อตกลงลับ” ให้จีนเข้ามาใช้งานฐานทัพเรือแห่งหนึ่งในประเทศ แม้นำกัมพูชายืนกรานปฏิเสธเสียงแข็ง นอกจากนี้ สหรัฐกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการหาพื้นที่จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ทางทหารนั้น จีน “ทาบทาม” นามิเบีย วานูอาตู และหมู่เกาะโซโลมอน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ในวันเดียวกัน เพนตากอนยังเผยแพร่รายงานประจำปีในประเด็น “อำนาจทางทหาร” ของจีน มีสาระสำคัญตอนหนึ่งเป็นการประเมินขีดความสามารถด้านโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ( พีแอลเอ ) ว่ากำลังเร่งพัฒนาศักยภาพของตัวเองในการผลิตหัวรบนิวเคลียร์ให้เพิ่มจำนวน “อีก 2 เท่า” จากที่มีอยู่ในปัจจุบัน “ประมาณ 200 หัวรบ” ภายในทศวรรษหน้า.

เครดิตภาพ : REUTERS
https://www.dailynews.co.th/foreign/793192