“อดิศร” ตีหน้าเศร้า ขอโทษ “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” หลังทวิตไม่สวมหน้ากาก-รู้ที่หลังว่าเป็นภาพเก่า

ข่าวการเมือง

สืบเนื่องมาจากทวิตเตอร์ @g5tDKrByXTyPAke และเฟซบุ๊ก Adisorn Piengkes ที่ระบุว่าเป็นของนายอดิศร โพสต์ภาพคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มาจากการถ่ายทอดสดการอ่านคำวินิจฉัยกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. โดยที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า แล้วโพสต์ข้อความระบุว่า “แจ้งความ ผู้ว่า กทม. (อัศวิน ขวัญเมือง) ตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่สวมใส่แมสก์ ขณะอ่านคำวินิจฉัยฯ ให้ดำเนินคดีเหมือนกับประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยด่วน ไม่งั้นถือว่าละเว้น ตาม ม.157 ป.อาญา” ซึ่งชาวเน็ตที่ชมถ่ายทอดสดต่างตอบโต้ว่าเป็นภาพเก่า และนำภาพที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรายหนึ่งอ่านคำวินิจฉัยโดยสวมหน้ากากอนามัย

ภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญออกเอกสารข่าวชี้แจงว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ได้มีการบันทึกไว้ในวาระโอกาสอื่น และนำมาใช้เฉพาะวัตถุประสงค์สำหรับประกอบการถ่ายทอดทีวรวงจรปิดในช่วงเวลาที่ทำการตัดภาพการถ่ายทอดให้มีเฉพาะเสียงการอ่านคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ในขณะที่ศาลทำการอ่านคำวินิจฉัยอยู่นั้น คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกคนได้สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัดตลอดเวลา จนภารกิจดังกล่าวเสร็จสิ้นในเวลา 15.30 น.

วันนี้ (6 พ.ค.) นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โพสต์วีดีโอคลิป กล่าวว่า

“กระผมต้องขอประทานอภัยท่านผู้ชมและขอประทานอภัยศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 ท่านด้วยความเคารพ ภาพที่ผมได้รับมาในโซเชียลเป็นภาพคล้ายๆว่าตุลาการทั้ง 9 คนขึ้นพิจารณาคดี แต่มันเป็นภาพเก่าด้วยความผิดพลาด ด้วยความรีบเร่งจนเกินไป จนทำให้สื่อสารกับพี่น้องประชาชนผิด โดยไปบอกว่าตุลาการทั้ง 9 ท่านนั้น ไม่ได้สวมแมสก์ ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย ในขณะที่พิจารณาคดี อ่านคำวินิจฉัยของคดีร้อยเอกธรรมนัส

หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ผมขออนุญาตน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียวจะเป็นบทเรียนในการทำหน้าที่สื่อสารกับพี่น้องกับประชาชน ผมเคารพศาลรัฐธรรมนูญเพราะเราเรียนนิติศาสตร์มาเหมือนกัน อยากให้ตุลาการที่ถืออำนาจที่ยิ่งใหญ่ ในการบริหารตุลาการ นิติบัญญัติ ได้ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรมมีอยู่เพียงแค่นั้นครับ เราเลือดนิติศาสตร์ เหมือนกัน ที่กระผมได้สื่อสารผิดพลาดไปเพราะการไม่ได้เช็กข่าวให้ถี่ถ้วน จึงเกิดผลเสียแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงขอกราบประทานอภัยมายังทุกๆท่าน ณ โอกาสนี้ ในโอกาสต่อไปจะทำงาน อย่างระมัดระวัง ด้วยความละเอียดละออรอบคอบต่อไป ขอประทานอภัยนะครับ”