ฮือฮาแสงประหลาดออกจาก “พระเจ้าตาเขียว” ชาวบ้านเชื่อ คือ “พระธาตุ”

Exclusive ข่าวด่วนเกาะกระแส

(27 ม.ค.64) ที่วัดบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว ต.บ้านเรือน อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ชาวบ้านพากันเข้ากราบไหว้และนำพระเครื่องและเครื่องรางต่างๆ มาบรรจุฐานพระพุทธรูปพระเจ้าตาเขียว หลังจากทราบว่าพระพุทธรูปนั้นได้แสดงอภินิหาร ทั้งโยกไปมา และล่าสุดไม่กี่เดือน ก็มีลำแสงประหลาดส่องมายังพระพักตร์ ตามภาพที่กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ อีกทั้งมีแสงระยิบระยับคล้ายหิ่งห้อย ชาวบ้านที่ดูกล้องวงจรปิดถึงกับก้มกราบอย่างสนิทใจว่า คือ พระธาตุที่ออกจากพระพุทธรูปพระเจ้าตาเขียว

นายชวลิต สุริยจันทร์ ผู้ดูแลวัดดังกล่าวมาร่วม 30 ปี กล่าวว่า เกิดเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนักที่พระพุทธรูปสมัยพระนางเจ้าจามเทวี ผู้สร้างขึ้นจนกระทั่งปัจจุบันอายุราว 1,400 ปี ได้แสดงอภินิหาร เช่น โยกไปมา ซึ่งพระพุทธรูปองค์ขนาดใหญ่จะโยกไปมาได้อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางพระในวัดเล่ามาว่าเกิดขึ้นจริงๆ แต่เกิดมาหลายปีแล้ว จนกระทั่งล่าสุดก็มีลำแสงประหลาดพร้อมแสงระยิบระยับ เชื่อกันว่าเป็นองค์พระธาตุในตัวออกมาเพื่อสื่อสารบางอย่าง ทั้งๆ ที่ประตูวิหาร หน้าต่างทุกบาน ปิดหมด จะมีลำแสงได้อย่างไร โชคดีที่ทางวัดมีกล้องวงจรปิด จึงเห็นเรื่องราวปาฏิหาริย์ดังกล่าว

ด้าน นายชาคร ณ ลำปาง หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน ได้นำพระเครื่องบรรจุฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ให้กับชาวบ้านด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการสิริมงคลต่อชีวิต ขณะที่ชาวบ้านบางรายก็ไม่ลืมที่จะขอโชคขอลาภจากองค์พระ บางคนก็อ้อมไปด้านหลังพระพุทธรูปเพื่อส่องหาเลขเด็ดตามความเชื่อ เพราะเชื่อว่าปาฏิหาริย์ในครั้งนี้ท่านคงจะเห็นชาวบ้านเดือดร้อนในยุคข้าวยากหมากแพง ยุคโควิด-19 ระบาด อาจจะประทานรางวัลให้ก็ได้

สำหรับประวัติพระเจ้าตาเขียว ตามตำนานท้องถิ่นได้เล่าเอาไว้ว่า เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จประกาศพระพุทธศาสนาสั่งสอนไปยังทุกหมู่บ้าน พร้อมด้วยสาวก ทุกๆ แห่งที่ผ่านไปได้ประทานรอยพระพุทธบาท พระเกศาธาตุ และได้ตรัสพยากรณ์สถานที่นั้นๆ ไปด้วย จนเสด็จมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ทรงพยากรณ์ว่า ภายหน้าจะเป็นนครที่รุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนามาก มีนามว่า “หริภุญชัยนคร” ณ ที่พระพุทธองค์ประทับพักมีลัวะชื่อ เม็งคบุตร ได้ชวนผู้คนแถวนั้นมาฟังธรรม และรู้ถึงอานิสงส์แห่งการสร้างพระพุทธรูป จนเข้าถึงพระรัตนตรัยกันโดยทั่วหน้า พระอินทร์ทูลขอพระเกศาธาตุ พระองค์ประทานให้แล้วเสด็จต่อไป เม็งคบุตรพร้อมหมู่คนท้องถิ่นได้พากันขุดอุโมงค์นำพระเกศาธาตุใส่ผอบทองคำ และใส่ในโกฏิเงินอีกชั้น พร้อมทั้งของมีค่ามากมาย บรรจุลงในอุโมงค์แล้วปิดด้วยอิฐขนาดใหญ่

ต่อมาพญานาคได้นำศิลาหินใหญ่จากบาดาลมาปิดทับอุโมงค์อีกชั้นหนึ่ง (ณ วัดบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว ต.บ้านเรือน อ.ป่าซาง จ.ลำพูน) พระเกศาธาตุ และพระพุทธรูปพระเจ้าตาเขียว ณ วัดบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว ต.บ้านเรือน อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้ปรากฏเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ในปี พ.ศ.1235 อาณาจักรหริภุญชัยนครมีความรุ่งเรืองทางศาสนามาก ผู้มีศีลธรรมท่านหนึ่งชื่อ ขันตะคะ ได้ทราบเรื่องพระเกศาธาตุ จึงได้พาหมู่คณะขุดขึ้นมาปรับปรุงถ้ำใหม่ อัญเชิญพระแม่เจ้าจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งหริภุญชัยนคร พร้อมด้วยราชโอรส พระเจ้ามหันตยศ และพระเจ้าอนันตยศ เป็นประธาน ได้คิดกันสร้างพระพุทธรูปทับปากถ้ำ 1 องค์ พอสร้างมาถึงพระพักตร์ ไม่รู้จะเอาแบบไหนกันดี พระอินทร์รู้ด้วยญาณจึงแปลงกายเป็น “ชีปะขาว” มารับอาสาช่วยสร้าง ได้เอาแก้วมรกตสีเขียวที่นำมาด้วยบรรจุในพระเนตรทั้งสองข้างของพระพุทธรูป ประชาชนในห้องถิ่นนั้นจึงได้ขนานนามว่า “พระเจ้าตาเขียว” จนปัจจุบัน.

แหล่งข่าว https://www.thairath.co.th/news/local/north/2021309