เชียงรายเจออีก2! สาว 1G1 ติดโควิด – ปชช. ผวาแห่ตรวจโควิดกว่า 2 พันคน

Exclusive ข่าวด่วนเกาะกระแส เชียงราย

(5 ธ.ค.63) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผวจ.เชียงราย พร้อมด้วย นพ.ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และ นพ.สมศักดิ์ อุทัยพิลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมกันแถลงสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.เชียงราย ว่าพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย เป็นหญิงอายุ 25 ปี ทำให้ จ.เชียงราย พบผู้ติดเชื้อรวมกัน 11 ราย

สำหรับ 2 รายล่าสุดทำงานในโรงแรมวันจีวัน จ.ท่าขี้เหล็ก โดยก่อนพบเชื้อได้มีเพื่อนคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันได้หลบหนีเข้าทางช่องทางธรรมชาติสู่ อ.แม่สาย แล้วไปพักบ้านแฟน ต่อมาเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ได้มีหญิงสาว 4 คนที่เป็นเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกันข้ามมาพักด้วยกันและพากันไปเที่ยวสถานบันเทิงใน อ.แม่สาย ก่อนที่วันต่อมาทั้ง 4 คนจะเดินทางไป อ.เมืองเชียงราย

ต่อมาค่ำวันที่ 28 พ.ย. ผู้พบเชื้อรายใหม่ทั้ง 2 คน ได้ลักลอบข้ามชายแดนมาพักที่บ้านแฟนของหญิงสาวคนแรกทดแทนกลุ่มเดิมที่เพิ่งเดินทางจากไป อย่างไรก็ตาม หลังจากมีข่าวการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.ท่าขี้เหล็ก หญิงสาวคนแรกจึงไปตรวจหาเชื้อที่คลินิกเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย แต่ไม่พบเชื้อ จึงได้โทรศัพท์ชวนเพื่อนอีก 2 คนไปตรวจก็ไม่พบเชื้อเช่นกัน ช่วงเย็นจึงออกไปซื้อของที่ตลาดและกลับที่พัก

กระทั่งวันที่ 2 ธ.ค. คนในกลุ่มมีไข้จึงโทรศัพท์แจ้งโรงพยาบาลแม่สายเพื่อให้ไปรับ เมื่อตรวจก็พบว่าหญิงสาวที่ข้ามมาขอพักด้วย 2 คนติดเชื้อโควิด-19 ส่วนหญิงสาวคนแรกที่พักบ้านแฟนกลับไม่พบเชื้อ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจและรอยืนยัน ขณะที่อาการป่วยของทั้ง 2 คนพบว่าคนแรกมีอาการไอ มีเสมหะ มีน้ำมูก และจมูกไม่ได้กลิ่น ส่วนอีกคนมีไข้และปวดเมื่อยตามตัว

นายวรวิทย์ กล่าวว่า วันนี้มีคนไทยที่ตกค้างใน จ.ท่าขี้เหล็ก แจ้งผ่านคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่นขอกลับประเทศไทยอีก 40 คน ส่วนคนที่ข้ามมาแล้วมี 67 คน ทั้งหมดอยู่ในศูนย์กักดูอาการ สำหรับสถานบันเทิงที่ผู้ป่วยรายที่ 7 ที่พบเชื้อใน อ.เมืองเชียงราย ทำงานอยู่นั้น ทางจังหวัดให้ปิดเป็นเวลา 14 วัน และสถานบันเทิงที่ผู้ติดเชื้อไปเที่ยว 3 แห่ง ให้ปิดเป็นเวลา 7 วัน และทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการฆ่าเชื้อและทำความสะอาดแล้ว

ด้าน นพ.ทศเทพ กล่าวว่า กรณีผู้ติดเชื้อรายที่ 10 และ 11 พบว่าได้ไปตรวจที่คลินิกเอกชนที่ใช้วิธีการตรวจหาแอนติบอดี้หรือภูมิคุ้มกัน ซึ่งทางสาธารณสุขไม่แนะนำให้ใช้แล้ว และเมื่อไปตรวจกับโรงพยาบาลของรัฐที่ใช้วิธีการแอนติเจนของเชื้อโควิด-19 ก็พบการติดเชื้อดังกล่าว นอกจากนี้ ทางคลินิกก็ไม่ได้แจ้งให้ทางสาธารณสุขได้รับทราบด้วย ดังนั้น จึงจะไปทำความเข้าใจกับคลินิกรายนี้ และเร่งประชาสัมพันธ์ให้สถานบริการเอกชนได้แจ้งให้สาธารณสุขทราบ กรณีมีผู้ป่วยลักษณะนี้ไปตรวจด้วย

ขณะที่ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมดที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์พบว่าไม่มีอาการเลย 3 ราย และมีอาการ 8 ราย ซึ่งการรักษาจะให้ยาต้านไวรัสกับผู้ที่มีอาการเป็นเวลา 5 วัน และดูอาการอีก 10 วัน ปัจจุบันผู้ป่วยรายแรกใกล้จะครบกำหนดในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ซึ่งทำให้สามารถออกจากโรงพยาบาลได้เหมือนคนปกติต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ณ ที่ว่าการ อ.เมือง จ.เชียงราย และสิงห์ปาร์ค รถชีวนิรภัยพระราชทาน 2 คัน ได้แยกกันไปให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งพบว่ามีประชาชนไปตรวจเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีโรงพยาบาลเกษมราฎร์ศรีบุรินทร์ ที่สามารถตรวจได้วันละ 200 รายด้วย

ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 2-4 ธ.ค.นี้ มีผู้ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในจ.เชียงรายรวมกัน 2,121 ราย เพราะกังวลจากการไปเที่ยวงานต่าง ๆ หรือสถานบันเทิงที่ผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้เคยไปเที่ยว โดยล่าสุดพบผลเป็นลบ 1,474 ราย และรอผลตรวจ 647 ราย นอกจากนี้ ยังมีรถชีวนิรภัยพระราชทานประจำอยู่ที่ชายแดน อ.แม่สาย เพื่อสนับสนุนการตรวจที่ด่านพรมแดน อ.แม่สาย อีก 1 คัน

เครดิต https://www.khaosod.co.th/update-news/news_5469112