เปิด 10 คำชี้แจง “พลอย-ธัญญา” และ “เพลิน-นิฏฐา” ลูกสาวฝาแฝด “บิ๊กตู่”

ข่าวด่วนเกาะกระแส

ลูกสาวฝาแฝด “บิ๊กตู่” ชี้แจง10 ข้อกล่าวหา ของชาวโซเซียล ยืนยัน ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับของบิดา ไม่แสดงความเห็นทางการเมือง ขอให้กรณีนี้เป็นตัวอย่างและบรรทัดฐานของการใช้ Social Media

(2 ก.ย.63) สืบเนื่องจากกรณีที่ นายอภิวัฒน์ ขันทอง ทนายความ ที่ได้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ธัญญา และน.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาวฝาแฝด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำหลักฐานการโพสต์ทวิตเตอร์และสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมกว่า 100 บัญชี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวในความผิดฐานหมิ่นประมาท และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังโพสต์ทวิตเตอร์และคลิปวิดีโอกล่าวหาว่าบุตรสาวของนายกทั้ง 2 คน เปลี่ยนชื่อและนามสกุล เพื่อหนีคดีไปอยู่คฤหาสน์หรูในประเทศอังกฤษ และช่วยบิดาฟอกเงิน ซึ่งเป็นการทุจริต สร้างความเสียหายให้แก่ชื่อเสียง เกียรติยศ วงศ์ตระกูลเป็นอย่างมาก

ล่าสุดมีการเผยแพร่ คำชี้แจงของ นางสาวธัญญา จันทร์โอชา และ นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา จากข้อกล่าวหาใน Social Media #ตามหาลูกประยุทธ์ ที่เป็นกระแสสังคมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้าพจ้า นางสาวธัญญา จันทร์โอชา และ นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา ประสงค์ดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคล คณะบุคคล นิติบุคคล หรือสื่อใดๆ ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย, กล่าวหา คุกคาม, หมิ่นประมาท ข้าพเจ้าทั้งสอง เช่นการกล่าวหาว่าข้าพเจ้าทั้งสอง เปลี่ยนนามสกุล, อาศัยอย่างสุขสบายอยู่ในคฤหาสน์ต่างประเทศ, เป็นเส้นทางฟอกเงินของบิดาและอื่นๆ โดยปราศจากหลักฐานและไม่มีมูลความจริงเช่นนี้ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวข้าพเจ้าทั้งสองและวงศ์ตระกูล ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง

ข้าพเจ้าทั้งสอง ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการงานของบิดา ไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆทางการเมือง วันนี้ข้าพเจ้าทั้งสอง จำเป็นต้องปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี สิทธิของตนเองและวงศ์ตระกูล ข้าพเจ้าทั้งสองขอเรียนชี้แจง ในประเด็นข้อกล่าวหาต่างๆ ซึ่งเป็นความเท็จทั้งสิ้น ดังนี้

ข้อ 1 กล่าวหาว่า : มีการเปลี่ยนมาใช้ นามสกุลมารดา เพื่อทำเรื่องผิดกฎหมายต่างๆ เช่น ฟอกเงิน ขอวีซ่าเพื่อหนีไปอยู่ต่างประเทศ ฯลฯ
ข้อเท็จจริง : ไม่เคยมีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลใดๆ ยังคงใช้ชื่อ ธัญญา จันทร์โอชาและ นิฏฐา จันทร์โอชา ตั้งแต่กำเนิดจนถึงปัจจุบัน

ข้อ 2 กล่าวหาว่า : ไม่ได้อยู่ประเทศไทย
ข้อเท็จจริง : อยู่ประเทศไทยมาโดยตลอด ใช้ชีวิตปกติอย่างประชาชนคนไทยทั่วไป

ข้อ 3 กล่าวหาว่า : เรียนอยู่ประเทศออสเตรเลีย
ข้อเท็จจริง : ไม่เคยเรียนที่ประเทศออสเตรเลีย เคยเดินทางไปท่องเที่ยวเพียงครั้งเดียว เมื่อวัยเด็ก

ข้อ 4 กล่าวหาว่า : เรียนอยู่ต่างประเทศ
ข้อเท็จจริง : ข้าพเจ้าทั้งสอง เรียนจบชั้นประถมและมัธยม จาก โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ เรียนจบปริญญาตรี จาก คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เท่านั้น

ข้อ 5 กล่าวหาว่า : สอบตกปริญญาโท อธิการบดีถูกกดดันให้รับเข้าเรียน
ข้อเท็จจริง : ไม่ได้เรียนปริญญาโท และ ไม่เคยสอบตก เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 และ 3.96 และ เรียนจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์จุฬาฯ ได้รับเกียรตินิยมอันดับ 2 ทั้งคู่

ข้อ 6 กล่าวหาว่า : ปัจจุบันใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ที่ประเทศอังกฤษ โดยมีเจ้าสัวซื้อให้
ข้อเท็จจริง : ข้าพเจ้าทั้งสองใช้ชีวิตตามปกติในประเทศไทย ไม่เคยพำนักอาศัยในประเทศอังกฤษหรือประเทศอื่นใดเป็นระยะเวลานาน ไม่เคยพักอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ใดๆข้าพเจ้าทั้งสองได้เดินทางไปเที่ยวประเทศอังกฤษครั้งล่าสุดในปีพ.ศ.2558 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว โดยเข้าพักโรงแรมตามปกติ ในการนี้ ข้าพเจ้าทั้งสองได้มอบหลักฐานการเดินทางเข้าออกประเทศไทย ให้กับพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว

ข้อ 7 กล่าวหาว่า : มีการซุกงิน ฟอกเงิน โดยบิดโอนเงินเข้าบัญชีลูกที่ต่างประเทศ
ข้อเท็จจริง : ข้าพเจ้าทั้งสองไม่มีบัญชีธนคารที่ต่างประเทศ มีเพียงบัญชีธนาคารในประเทศไทยเท่านั้น

ข้อ 8 กล่าวหาว่า : บิดาโอนเงินเข้าบัญชีลูกทั้งสองคนเพื่อฟอกเงิน
ข้อเท็จจริง : บิดาโอนงินให้ ตั้งแต่ปี พศ. 2556 ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือ ความลับใดๆ บิดาเป็นผู้ชี้แจงเองและแจกแจงที่มาที่ไปของเงินอย่างชัดเจนในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ต่อป.ปช.อย่างเปิดเผย ตั้งแต่เมื่อครั้งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ. 2557 และยังปรากฏเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อทั่วไปหลายครั้งแล้ว โดยเงินส่วนนี้มีที่มาจากการขายที่ดินของ พันเอก ประพัฒน์ จันทรโอชา (คุณปู่) และมีการแบ่งทรัพย์สินภายในครอบครัว ซึ่งที่ดินผืนนี้เป็นมรดกตกทอดของครอบครัวมามากกว่า 50 ปี

ข้อ 9 กล่าวหาว่า : ทำไมไม่เคยมีภาพหลุดออกมาใน Social Media ใดๆเลยแม้กระทั่งของเพื่อนยังไม่มีภาพ
ข้อเท็จจริง : ข้าพเจ้าทั้งสองไม่มีบัญชีส่วนตัวใน Social Media ใดๆ และ กลุ่มเพื่อนที่ติดต่อกันก็เข้าใจในสิทธิความป็นส่วนตัวจึงไม่เคยแชร์ภาพใดๆ และไม่ต้องการให้มีบุคคลใดนำภาพไปแอบอ้างใช้หาประโยชน์

ข้อ 10 กล่าวหาว่า : ไม่เปิดเผยตัวเหมือนลูกนักการเมือง หรือ ลูกนายกฯ คนอื่น
ข้อเท็จจริง : ข้าพเจ้าทั้งสองใช้ชีวิตปกติเหมือนประชาชนคนไทยทั่วไป ไม่ได้ต้องการเป็นที่รู้จักหรือเปิดเผยตัวว่าเป็นลูกใคร เพราะ ไม่ต้องการได้รับอภิสิทธิ์หรือเพื่อรับผลประโยชน์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของบิดา หากมีใครแอบอ้างว่ารู้จัก สามารถช่วยเหลือเพื่อรับผลประโยชน์ต่างๆ ได้ เป็นเรื่องเท็จทั้งหมด

ข้าพเจ้า นางสาวธัญญา จันทร์โอชา และ นางสาวนิฏฐา จันทรโอชา ต้องการใช้สิทธิทางกฎหมายโดยการฟ้องดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด กับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย, กล่าวหา, คุกคาม, หมิ่นประมาท ทั้งหมด ทั้งผู้ที่โพสต์และแชร์ ในทุกช่องทาง SocialMedia ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Youtube ฯลฯ รวมถึงสื่อ หรือ พื้นที่สาธารณะ
อื่นๆ โดยไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้น

ข้าพเจ้าทั้งสองประสงค์ให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างและบรรทัดฐานของการใช้Social Media ในประเทศไทยว่า ผู้ใดก็ตาม ไม่มีสิทธิเผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย,กล่าวหา, คุกคาม, หมิ่นประมาท ผู้อื่น โดยปราศจากหลักฐาน และในขณะเดียวกันก็ไม่ควรมีผู้ใดตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง จากการหลงเชื่อข้อมูลโดยขาดการไตร่ตรอง คิดวิเคราะห์แยกแยะ เพียงเพราะความอคติ และ ความเกลียดชัง อีกต่อไป

หากผู้ใดมีหลักฐานการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย, กล่าวหา, คุกคาม, หมิ่นประมาท ที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าทั้งสองเพิ่มเติม ขอความร่วมมือส่งข้อมูลมาที่ทนายความของข้าพจ้าทั้งสอง ทางอีเมล [email protected] เพื่อรวบรวมและดำเนินการฟ้องร้องต่อไป

นางสาวธัญญา จันทรโอชา และ นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา
2 กันยายน 2563
#ความจริงลูกประยุทธ์