เพลิงไหม้ อาคารบ้านสุขาวดี จ.ชลบุรี เสียหายหลายล้านบาท

ข่าวด่วนเกาะกระแส

1.ในวันที่ 1 ก.ค. 2563 มีเหตุเกิดไฟไหม้ที่อาคารสุขขาวดี โดยที่ต้นเพลิงมาจากอาคารโดมพระใหญ่

2.ที่อยู่ของบ้านสุขาวดีคือ บ้านเลขที่ 219 หมู่ 2 โดยตั้งอยู่ด้านฝั่งชายทะเลติดถนนสุขุมวิท อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมชลจันทร์ และที่ว่าการอำเภอบางละมุง โดยมีพื้นที่มากกว่า 80 ไร่

3.เนื่องจากมีเพลิงใหม้อย่างรุนแรง นายธีรศักดิ์ จตุพงษ์ หัวหน้าสำนักปลัดเมื่องพัทยา พร้อมกับ พันตำรวจตรีจีรวัฒน์ สุคนธทรัพย์ รก. ผอ. ส่วนรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง ได้เข้าสั่งการคุมเพลิงไหม้โดยมีเจ้าหน้าที่นำรถดับเพลิงกว่า 20 คันเข้าควบคุมเพลิง

4.ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ทัน แต่ยังหาสาเหตุของการเกิดเพลิงรวมถึงมูลค่าความของเสียหายไม่ได้ ทั้งนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพื้นที่ก่อน

5.ลักษณะของบ้านสุขาวดีนั้นเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่สุดแสนตระการตา ตั้งสง่าติดกับริมทะเลภายนอกประกอบด้วยรูปปั้นจำนวนไม่น้อย พร้อมภาพประดับประดาตกแต่งโดยเป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมันและภายนอกได้ตกแต่งด้วยสีสันสดใสโดยมีสีชมพูและสีฟ้าประกอบภายนอกตัวบ้าน

6.เจ้าของบ้านสุขาวดี คือ ดร. ปัญญา โชติเทวัญ ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจสหฟาร์มขนาดใหญ่ นอกจากนี้แล้วยังเป็นผู้ส่งออกผลิตผลทางการเกษตรรายใหญ่ของไทยอีกด้วย

7.ศิลปะตกแต่งบ้านสุขาวดีล้วนแล้วแต่แฝงความหมาย โดยสีชมพูที่แต่งเติมตัวบ้านนั้นหมายถึงความรัก และยังหมายความไปถึงว่าหากที่ใดมีรักนั้นที่นั้นย่อมจะมีความสามัคคีสมัครสมานได้ เมื่อมีความรักแล้วก็ย่อมจะเกิดเรื่องดีๆตามมาจึ งเปรียบเสมือนว่าเป็นสถานที่ที่ดีและเจริญ โดยประกอบด้วยคิวปิคและเทพเจ้าแห่งความรักเป็นสัญลักษณ์

ส่วนสีฟ้านั้นเปรียบเสมือนน้ำ โดยนอกจากน้ำจะหมายถึงการปรับตัวซึ่งน้ำสามารถแปรสภาพได้ตามสถานะของแวดล้อมแล้ว น้ำยังเปรียบเสมือนถิ่นให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตรวม ๆแล้วหมายถึงการดำรงชีวิตอยู่เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของเศรษฐกิจ รวมถึงความมีน้ำใจอีกด้วย

8.เมื่อเดินเข้ามาแล้วในบริเวณบ้าน จะพบอาคารต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย

– อาคารประชาสัมพันธ์ซึ่งมีไว้เพื่อเป็นกองอำนวยการสำนักงานผู้บริหารฝ่ายประชาสัมพันธ์

– ส่วนอาคารแปดเหลี่ยมซึ่งมีจุดเด่นตามชื่อเรียกนั้นคื อศูนย์อาหารและเครื่องดื่ม โดยมีสินค้าทะเลในเครือ HEALTH FOOD ไว้เป็นของฝากกลับบ้านอีกด้วย

– ต่อมาคืออาคารครัวโลกภายในเป็นห้องโถงประชุมใหญ่มีสัญลักษณ์ทางการเกษตรตกแต่งไว้และสามารถจุคนได้ถึง2,500คนอีกด้วย

– นอกจากนี้แล้วยังมีอาคารเจ้าแม้กวนอิมและอาคารไอริสโซเฟียเป็นแหล่งขายสินค้า O-TOP ระดับ4 -5ดาว

– อาคารสุดท้ายคืออาคารโดมพระซึ่งเป็นที่เกิดเหตุในครั้งนี้