เล็งตั้ง “ธนาคารประกันสังคม” เพื่อให้ “ผู้ประกันตน” มีแหล่งเงินทุนให้กู้ยืม

ข่าวด่วนเกาะกระแส

1.วันที่ 10 ก.ค.63 นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ ผู้ตรวจราชการกรมและโฆษก สำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เผยว่า จากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ภาคธุรกิจต้องหยุดกิจการชั่วคราว ส่วนแรงงานก็ตกงานกันเป็นจำนวนมาก

2.คณะกรรมการบริหารได้พิจารณาให้โควิด-19 เป็นเหตุสุดวิสัย เพื่อให้ผู้ประกันตนที่ตกงานได้รับการเยียวยาจากประกันสังคมที่ 62% ของอัตราค่าจ้างรายวัน (ประมาณ 9,000 บาท) รวมระยะเวลา 90 วันนั้น

3.วงเงิน (ประมาณ 9,000 บาท) นั้นมาจากผู้ประกันตนที่ตกงานและไม่ตกงาน ทาง สปส.จึงได้ทำการศึกษาแนวทางใน 2 เรื่องเพื่อให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นและเตรียมหาแนวทางไว้หากมีเหตุการณ์อื่นๆ ในอนาคตที่จะเข้ามามีผลกระทบต่อการเลิกจ้างงาน

4.ทาง สปส.ได้มีการศึกษาแนวทางใน 2 เรื่องดังนี้
-การให้ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม สามารถเลือกรูปแบบการบริหารเงินสมทบตามที่ต้องการได้
-การจัดตั้งธนาคารประกันสังคมเพื่อรองรับกรณีที่เกิดการว่างงานจำนวนมาก เพื่อให้ผู้ประกันตนที่ต้องการกู้ยืมเงินนำไปใช้ในการดำรงชีพหรือนำไปลงทุนสร้างกิจการแทนการเป็นลูกจ้าง

5.การศึกษาความเป็นได้ 2 แนวทางที่กล่าวมานั้นมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน เช่น
-การบริหารเงินเองจะมีผลต่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เพราะปัจจุบันประกันสังคมได้ใช้วิธีนำเงินไปลงทุนในกองทุนต่าง ๆ โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารเพื่อไม่ให้ “ขาดทุน” แต่ถ้าหากขาดทุนก็ต้องหาวิธีรองรับกับภาวะต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น
-การจัดตั้งธนาคารประกันสังคมนั้นมีความซับซ้อนมากเพราะประกันสังคมเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีขั้นตอนการดำเนินงานมากมายและไม่ค่อยมีความยืดหยุ่น จึงต้องแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดซึ่งอาจใช้เวลามากกว่า 1 ปี

6.นางพิสมัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การจ่ายเงินเพื่อเยียวยาผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้างนั้น คาดว่าจะดำเนินการจ่ายเงินแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือนสิงหาคมนี้

7.สรุปข้อมูลการจ่ายเงินของประกันสังคมได้จ่ายไปแล้วประมาณ 12,000 ล้านบาทและได้ปิดรับการยื่นขอรับเงินเยียวยาจากผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปแล้ว เพราะปัจจุบันไม่มีการระบาดของโควิด-19 แล้ว

8.จากที่สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า หากเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 แล้วมีผู้ประกันตนตกงานเป็นจำนวนมาก

9.มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำเงินที่ประกันสังคมได้ลงทุนในกองทุนต่าง ๆ กลับเข้ามาเติมเงินในระบบประกันสังคม สำหรับคำตอบที่ได้รับนั้นระบุว่า ให้คณะกรรมการบริหารของประกันสังคมสามารถพิจารณาได้เองทันที

10.ถ้าหากโควิด-19 กลับมาระบาดและรุนแรงมากขึ้นอีกครั้ง ทางสำนักงานประกันสังคมได้เตรียมเสริมสภาพคล่องไว้ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาทและถ้ามีคำสั่งให้เยียวยาผู้ที่ถูกเลิกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ก็จะดำเนินการด้วยความระมัดระวังมากขึ้น

11.ต้องคำนึงถึงความมั่นคงทางการเงินของประกันสังคมด้วย เพราะจำนวนเงินทั้งหมดเป็นเงินที่มาจากนายจ้างและลูกจ้างและเงินจากภาครัฐที่ได้จ่ายสมทบไว้

12.ดังนั้นการที่จะนำเงินประกันสังคมออกไปใช้ด้วยวัตถุประสงค์อะไรก็ตาม จะต้องถามความเห็นและระมัดระวัง หากมีการใช้เงินไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ประกันสังคมได้วางไว้ก็อาจถูกร้องเรียนได้

13.รายงานจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้รายงานถึงสถานประกอบการที่ใช้มาตรา 75 ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ที่มีผู้ประกอบการยื่นขอหยุดกิจการทั้งหมดหรือหยุดกิจการบางส่วนในเดือนมิถุนายนมีจำนวน 1,310 แห่ง

14.มีการเลิกจ้างแรงงานกว่า 319,824 คน ซึ่งเป็นยอดสรุป 9 เดือนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561-21 มิถุนายน 2563 ที่มีการยื่นขอปิดกิจการไปแล้วประมาณ 4,254 แห่ง และมีแรงงานถูกเลิกจ้างรวม 853,696 คน

15.ทั้งนี้กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการเพื่อเยียวยาผู้ตกงานแล้ว เช่น มาตรการช่วยเหลือแรงงานนอกระบบให้ได้รับการฝึกอาชีพตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงในครัวเรือนและการพัฒนาทักษะฝีมือให้กับแรงงานในระบบเพื่อสอดคล้องตามความต้องการของตลาด