วันนี้ (อังคารที่ 12 พฤษภาคม 2563) ที่วัดถ้ำพระพุทธโกษีย์ (ในเตา) บ้านหน้าวัด ม.1 ต.ในเตา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นจุดกักตัวเพื่อเฝ้าระวังป้องกันการแพร่โรคติดเชื้อโควิดสำหรับผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงประจำตำบลในเตา โดยใช้ศาลาที่พักสามเณรเป็นจุดกักตัว และตอนนี้กลายเป็นจุดสนใจเนื่องจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ว่า “บ้านในเตา กักตัวกับโลงศพ มีที่ไหนมั่งละไม่มีอะไรให้เลย แถมโลงศพ 2 ลูก” พร้อมภาพโลงศพที่อยู่ภายในห้องกักตัว
โดยภายในห้องที่กักตัวเป็นศาลาที่ใช้เป็นที่พักสำหรับสามเณรลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ มีเตียงนอน 4 หลัง ส่วนโลงศพที่เคยอยู่ใกล้กับเตียงนอน ถูกย้ายที่จัดเก็บไปอยู่บริเวณหลังห้องพร้อมมีผ้าสีแดงกั้นอยู่ โดยเมื่อวานนี้มีผู้ที่เดินทางมาจากภูเก็ต 3 ราย เข้ามากักตัว และก่อนหน้านี้จำนวน 1ราย
นายฤทธิชัย อ่อนชาติ อายุ 27 ปี พนักงานขับรถทัวร์ 1 ในผู้ที่มากักตัว กล่าวว่า ตนมาจากจ.ภูเก็ต มานอนที่นี่มา 8 วันแล้วจากที่มากักตัวที่นี่ก็ไม่ได้เจอปัญหาอะไรซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ได้รับการกักตัวมาแล้ว 1 เดือน 14 วัน จาก จ.ภูเก็ต มีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี ที่นี่ก็เช่นเดียวกันมีการดูแลดี มีข้าวพร้อม
รวมถึงมีเจ้าหน้าที่มาวัดไข้ แต่ก็มีปัญหาเรื่องที่อยู่ก็เข้าใจทุกคนก็ไม่พอใจกัน ช่วงที่ตนนอนพักก็มีโลงศพตั้งอยู่ในห้องตนก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ในเมื่อเขาให้มาอยู่ที่ตรงนี้ตนก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เพราะเป็นที่กักตัว ตนก็รู้สึกกลัว ไม่อยากอยู่ แต่จำใจต้องอยู่เพราะมันไม่มีที่กักตัว จากการที่ได้มาอยู่ก็ไม่ได้เจอปัญหาอะไรก็ดีบ้างในระดับหนึ่ง วันที่ 15 นี้ก็ครบกำหนดการกักตัวแล้วแต่ตนก็ต้องกลับบ้านไปกักตัวในสวนยางต่อ
นายฤทธิชัยกล่าวด้วยว่า อยากฝากผู้ที่จะกลับมากักตัวก็อยากให้คิดให้ดีบางอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดทุกอย่างบางที่อาจจะไม่ได้สบาย ในเมื่อเขาเตรียมพื้นที่ให้เราอยู่อย่างไรเราก็ต้องอยู่อย่างนั้นตามที่ อบต.ในเตาจัดให้ ตอนที่กักตัวตนก็อยู่ภายในวัดนี้ไม่ได้ออกไปข้างนอก ก็อยากให้คนที่มากักตัวมีความรับผิดชอบในตัวเอง
ด้าน นายสิทธิชัย จันทร์คง รองนายก อบต.ในเตา กล่าวว่า เรื่องโลงศพที่อยู่ในห้องนั้นมีอยู่จริงแต่เป็นโลงที่เขาบริจาคมาเป็นไม้อย่างดี จึงไม่ได้ใช้งานเก็บไว้ในศาลาที่เขามาพักอาศัย เรื่องอื่นไม่ได้มีอะไร ทาง อบต.ในเตาร่วมกับคณะกรรมการชุดป้องกันโรคโควิด-19 พบว่าเรามีปัญหาคือไม่มีที่พักให้กับผู้ที่เดินทางกลับมาพัก กักตัว 14 วัน ทาง อบต. ได้ลงมติเสนออำเภอว่าต้องใช้ที่ภายในวัดถ้ำพระพุทธโกษีย์ (ในเตา)ให้เป็นที่กักตัวสำหรับคนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด
เราไม่มีพื้นที่อื่นรองรับเพราะเราไม่รู้ว่าจะมีโรคนี้จะเกิดขึ้นเร็ว เราคิดว่าที่ตรงนี้ดีแล้ว เราไม่สามารถเช่าโรงแรมให้ได้ เพราะพื้นที่ในเตาอยู่ห่างไกลเมืองแต่ที่ตรงนี้มีการจัดเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี มีการเลี้ยงอาหารวันละ 3-4 มื้อ ครบ พร้อมทั้งตรวจร่างกายทุกๆ 6 โมงเช้า และ 6 โมงเย็น โดยเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขของ ต.ในเตา เป็นคนตรวจ ร่วมกับ อสม.การดูแลตรงนี้ดีกว่าที่ต้องไปอยู่ที่อื่นเพราะเป็นที่ไม่ห่างไกลชุมชนสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง การเดินทางสะดวก เจ้าหน้าที่อยู่ไม่ไกลเมื่อคืนมีการซื้อที่นอนเรียบร้อย
“หลังจากที่มีปัญหาถูกวิพากษ์วิจารณ์ทางโซเชียลแบบนี้ทางคณะกรรมการจึงได้เสนอให้มีการกักตัวที่บ้านโดยที่ไม่มีการมั่วสุมกับคนข้างเคียงผู้ที่กักตัวก็รับเงื่อนไขตรงนั้นว่าต้องการที่จะหาที่พักกักตัวกันเองซึ่งหาที่กักตัวกันเองทาง อบต.จะไม่รับผิดชอบเรื่องอาหารการกินให้แต่จะให้ทางครอบครัวจัดการดูแลกันเองแต่จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล
โดยที่ไม่ได้กำหนดเวลาการไปดูแล ตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้กักตัวกระทำตัวผิด ไม่ปฏิบัติตามกฎการกักตัวเกรงว่าจะออกไปข้างนอก ทางเราก็เป็นห่วงเราไม่สามารถมองเห็นโรคได้เราต้องมีการระมัดระวังตลอด การที่มีการโพสต์ตามโซเชียลนั้นตนคิดว่าไม่ควรเราควรคำนึงถึงญาติพี่น้อง ของผู้ที่ถูกักตัว รวมถึงบุคคลที่ได้ดำเนินการตรงนี้ด้วยทาง อบต. จัดหาที่ได้เท่าที่มีกำลังจัดหาให้เพราะไม่มีกำลังในการเช่าบ้านหรือรีรีสอร์ท ให้ คงสู้ไม่ไหว เพราะเราเป็นเพียงอบต.เล็กๆเท่านั้น แต่เราก็มีแนวคิดในการป้องกันเหมือนคนอื่นเหมือนกันเรามีการประชาสัมพันธ์ตลอด” นายสิทธิชัย กล่าว
