1.นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางกลุ่มที่ทำให้มีผิวขาวใสเป็นที่นิยมมากในทุกกลุ่มที่นิยมผิวขาวใส
2.การโฆษณาที่เกินจริงของครีมหน้าขาวและการที่ผู้บริโภคเข้าถึงช่องทางการซื้อ-ขายได้หลายช่องทางนั้น อาจทำให้เกิดอันตรายทั้งแบบเรื้อรังและเฉียบพลันได้ ผู้บริโภคไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์ชนิดไหนที่ผ่านและไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา
3.สำหรับส่วนผสมที่ทำให้ผิวขาวใสในชั่วข้ามคืนอาจจะมีส่วนผสมหลายอย่างเช่น ปรอท ซึ่งเป็นสารห้ามใช้แต่อาจพบได้ในผลิตภัณฑ์
4 เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ผ่าน อย.อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อผู้บริโภคได้ หากผู้บริโภคใช้ต่อเนื่องยาวนาน
5.แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวว่า สำหรับอาการข้างเคียงจากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางในกลุ่มที่ทำให้มีผิวขาว จะมีอาการคันเกิดขึ้น มีผื่นผิวหนังอักเสบ ระคายเคืองจากการแพ้ สังเกตได้จากบริเวณผิวหนังที่ใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางนั้นมีลักษณะ บวม แดง ร้อน
6.ถ้าใช้เป็นระยะเวลานานจะทำให้สีของผิวหนังเข้มขึ้น สีเล็บผิดปกติและเปราะบางได้
7.บางครั้งอาจเกิดรอยขาวคล้ายกับด่างขาวได้ โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของไฮโดรคิวโนน
8.สำหรับการเกิดพิษของปรอทที่มีผลต่อร่างกายนั้นอาจเกิดอาการแบบเฉียบพลันได้และเกี่ยวข้องระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้องและปอดอักเสบ ถ้าเป็นพิษเรื้อรังจะมีอาการทางไตและอาการทางระบบประสาทด้วย
9.หากสนใจที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ขาวขึ้น ควรศึกษารายละเอียดและวิธีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อก่อน
10.ไม่ควรหลงเชื่อคำโฆษณาที่เกินจริงและถ้าเกิดอาการแพ้และไม่แน่ใจว่าแพ้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อไหน ควรหยุดใช้ทันทีและควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังมากกว่า
