หลังเปิดให้บริการเมนูอาหารและเครื่องดื่มจากกัญชา “มาชิมกัญ” จนได้รับความนิยมจากนักชิมทั่วประเทศ “อภัยภูเบศร เดย์ สปา” โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในฐานะหน่วยงานนำร่องด้านการพัฒนากัญชาและการใช้ประโยชน์ ได้พัฒนาเมนูอาหารจากกัญชาขึ้นมาบนพื้นฐานของความปลอดภัยและก่อประโยชน์ โดยนำร่องเป็นต้นแบบเพื่อถ่ายทอดให้กับประชาชนและผู้ประกอบการที่สนใจ คอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” ได้นำข้อมูล เครื่องดื่มจากกัญชา “เมนูนํ้าซู่ซ่าร่าเริง” ของ อภัยภูเบศร เดย์ สปา โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี มานำเสนอเพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ที่สนใจ
พท.ป.เบญจวรรณ หมายมั่น แพทย์แผนไทยประยุกต์ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารข้อมูลศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ให้ข้อมูลกัญชาว่า โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรมีการติดตามการใช้ของภาคประชาชน และมีการเก็บข้อมูลการใช้มาอย่างยาวนาน ซึ่งประโยชน์ในแง่การเป็นอาหารจากกัญชาไม่เคยเขียนไว้ แต่ส่งผ่านคำบอกเล่าว่า กินแล้วเบิกบาน อารมณ์ขัน ผ่อนคลาย แต่ทางการแพทย์หมอพื้นบ้าน นำใบกัญชาใช้ต้มกินแล้ว แก้ปวดเมื่อย อาหารอร่อย และประสบการณ์ตรงของผู้มารับประทานอาหารหลายคนบอกว่า กินแล้วจะง่วง หลับ แต่สดชื่น การใส่ไปในอาหารยังไม่มีข้อมูลชัดเจน จึงต้องให้ข้อมูลประชาชนให้บริโภคตามองค์ความรู้ภูมิปัญญาดั้งเดิมคือไม่เกิน 5 ใบต่อวัน
“การนํากัญชาไปใช้ จําเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในการใช้ เพื่อไม่ให้เกิดโทษต่อผู้บริโภค ดังนั้นจึงใส่ข้อจํากัดในการใช้ตามเอกสารไว้ด้วย รวมถึงข้อห้ามว่าใครบ้างที่ไม่ควรใช้ เนื่องจากกัญชาในอาหารยังเป็นสิ่งใหม่ต่อสังคมไทย เมื่อจะนํามาสู่สังคมจึงต้องมีการใช้อย่างระมัดระวังและคํานึงถึงความปลอดภัยโดยรวมด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่ควรหลีกเลี่ยงหรือไม่ควรบริโภคกัญชา ได้แก่ 1. ผู้ที่อายุตํ่ากว่า 25 ปี 2. ผู้ที่มีตับและไตบกพร่อง 3. ผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือดวาร์ฟาริน 4. ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด 5. หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร และ 6. ผู้ที่ใช้ยาที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เพราะอาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดี”
สำหรับเครื่องดื่ม “เมนูซู่ซ่าร่าเริง” นี้ปั่นจากใบกัญชาสดที่ให้สีเขียว กลิ่นคล้ายฝรั่ง โดยจะนำมาผสมกับนํ้าชาไทย ปรุงรสด้วยนํ้ามะนาว นํ้าผึ้ง นํ้าโซดา ซึ่งหลังจากนี้จะมีการพัฒนาไปเป็นชุดความรู้ และร่วมมือกับทาง กศน.ทำหลักสูตรอบรมแก่ผู้สนใจไปประกอบร้านอาหาร หรือในครัวเรือนต่อไป
อุปกรณ์ที่ใช้
- เตาแก๊ส
- หม้อสเตนเลส
- เขียง
- มีด
- ตาชั่งของขนาดเล็ก
- ทัพพี
- ผ้าขาวบาง (ตะแกรงสำหรับกรอง)
วัตถุดิบ/ส่วนผสม
ส่วนผสมในการทำนํ้าเชื่อมชา
- ชาไทย 2 ช้อนชา
- กานพลู 4 ดอก
- ใบหูเสือ 4 ใบใหญ่
- นํ้าเชื่อม 120 มิลลิลิตร
- นํ้าสะอาด 100 มิลลิลิตร
ส่วนผสมนํ้ากัญชาคั้นสด
- ใบกัญชา 6 ใบ
- นํ้าสะอาด 300 มิลลิลิตร
ส่วนผสมในการชงเพื่อเพิ่มรสชาติ
- นํ้ามะนาว 20 มิลลิลิตร
- โซดา 100 มิลลิลิตร
- นํ้าเชื่อมชา 60 มิลลิลิตร
ขั้นตอนการทำ “นํ้าซู่ซ่าร่าเริง”
อันดับแรกเริ่มการทำนํ้าเชื่อมชาก่อน
โดยการนำวัตถุดิบทั้งหมดลงไปต้มในนํ้าสะอาด นาน 5 นาที จากนั้นใส่นํ้าเชื่อมลงไป คนส่วนผสมนํ้าเชื่อมให้เข้ากันดี ยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น
ต่อไปเป็นการทำนํ้าคั้นกัญชาสด
ให้นำใบกัญชาที่ล้างสะอาดดีแล้วสด ๆ 6 ใบ มาปั่นกับนํ้าสะอาด 300 มิลลิลิตร แล้วกรองกากออก เอาแต่นํ้า (สูตรนี้สามารถชงได้ประมาณ 5 แก้ว)
วิธีชงนํ้าซู่ซ่าร่าเริง
ให้นำนํ้าเชื่อมชา 60 มิลลิลิตรใส่ลงไปในโถแก้ว ตามด้วยนํ้ามะนาว 20 มิลลิลิตร, โซดา 100 มิลลิลิตร และนํ้ากัญชาคั้นสด 45 มิลลิลิตร คนส่วนผสมให้เข้ากัน เสิร์ฟพร้อมนํ้าแข็ง
“นํ้าซู่ซ่าร่าเริง” มีโภชนาการ ต่อ 1 แก้ว ให้พลังงาน 116.7 กิโลแคลอรี, คาร์โบไฮเดรต 27.7 กรัม, โปรตีน 0.2 กรัม, ไขมัน 0.1 กรัม, แคลเซียม 9.8 มิลลิกรัม, โซเดียม 81.4 มิลลิกรัม
พท.ป.เบญจวรรณ บอกว่า เครื่องดื่มจากกัญชาสด ให้อารมณ์คล้ายชามะนาว หวานอ่อน ๆ หอมชา ซ่านิด ๆ สำหรับสูตรที่ให้มาสามารถชงเมนูเครื่องดื่มนํ้าซู่ซ่าร่าเริงได้ประมาณ 6 แก้ว
สำหรับราคาขายเมนูเครื่องดื่มจากกัญชา “นํ้าซู่ซ่าร่าเริง” ของอภัยภูเบศร เดย์ สปา จะขายอยู่ที่ราคาแก้วละ 75 บาท
สนใจอยากจะลิ้มลองรับประทานอาหารจากเมนูกัญชาเพื่อสุขภาพ อาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ได้ที่ “อภัยภูเบศร เดย์ สปา” โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี มีเมนูอาหารมากมายหลายแบบให้เลือกทดลองทาน สามารถติดตามข่าวสารและสูตรเมนูอาหารอื่น ๆ ได้ที่เฟซบุ๊ก อภัยภูเบศร เดย์ สปา โทร.0-3721-7127 และ 0-3721-1088 ต่อ 3123 เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น. พท.ป.เบญจวรรณ บอกว่า จำกัด 50 คิว/วัน เปิดรับบัตรคิว ตั้งแต่เวลา 09.00 น. และปิดรับบัตรคิวเมื่อครบจำนวน กับเมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ “นํ้าซู่ซ่าร่าเริง” (ใส่ใบกัญชา 1 ใบต่อแก้ว)
