รวบพนักงานสวนสนุกวัยกลางคน ลักชุดชั้นในสะสมกว่า 50 ชิ้น อ้างเก็บเป็นที่ระลึก เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ

ข่าวอาชญากรรม ภัยสังคม บุรีรัมย์

วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 – เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ควบคุมตัวพนักงานสวนสนุกเคลื่อนที่วัย 32 ปี ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หลังพบชุดชั้นในผู้หญิงในห้องพักรวม 54 ชิ้น ขณะที่ผู้ต้องหาสารภาพว่าเก็บไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้น ไม่ได้นำไปใช้ในทางที่ผิด

พ.ต.ท.รังสิวัฒน์ กังศรานนท์ รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจภูธรละหานทราย อำเภอละหานทราย นำตัวนายขวัญ หรือชื่อเล่น “เป้” อายุ 32 ปี พนักงานให้บริการของเล่นเด็กชิงช้าสวรรค์ ไปดำเนินคดี หลังจากการค้นห้องพักพบของกลางจำนวนมาก

ของกลางที่ยึดได้ประกอบด้วย กางเกงในผู้หญิง 28 ตัว ยกทรงหญิง 25 ตัว และชุดนอนผู้หญิง 2 ตัว รวมทั้งสิ้น 54 รายการ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นของที่ได้มาจากการลักขโมยจากหอพักในพื้นที่หลายแห่ง

การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่มีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความว่าชุดชั้นในที่ตากไว้ตามหอพักหายไปเป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด

กระบวนการสืบสวน

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่เกิดเหตุอย่างละเอียด จนสามารถระบุตัวบุคคลต้องสงสัยได้ การสืบสวนพบว่าผู้ต้องสงสัยเป็นบุคคลต่างถิ่นที่เดินทางมาทำงานกับทีมงานสวนสนุกเคลื่อนที่

จากการติดตามและรวบรวมหลักฐาน เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องสงสัยมีพฤติกรรมการกระทำความผิดเป็นแบบแผนที่ชัดเจน โดยเลือกเวลาที่เหมาะสมและมีการเตรียมการป้องกันการจับกุมอย่างรอบคอบ

การสืบสวนใช้เวลาหลายสัปดาห์ เนื่องจากผู้ต้องสงสัยไม่ใช่คนในพื้นที่และมีการเคลื่อนที่ตามกับทีมงานสวนสนุก จึงทำให้การติดตามและจับกุมมีความยุ่งยากซับซ้อน

คำให้การของผู้ต้องหา

นายเป้ ให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นพนักงานเดินสายทำงานกับนายจ้าง โดยมีหน้าที่ตระเวนเปิดสวนสนุกตามวัดต่างๆ ในหลายจังหวัด การทำงานของตนคือการเก็บบัตรค่าเล่นรถไฟในสวนสนุก

ประมาณต้นเดือนกรกฎาคม 2568 คณะของตนได้มาจัดงานที่วัดโพธิ์ทรายทอง ตำบลละหานทราย อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ในระหว่างที่ทำงาน ตนได้อาศัยหลับนอนภายในบริเวณวัดเป็นการชั่วคราว

ผู้ต้องหายอมรับว่าได้ออกไปขโมยเสื้อผ้าและชุดชั้นในของผู้หญิงตามหอพักในพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะเอาของที่ได้มาเก็บไว้กับตัว การกระทำความผิดครั้งนี้เกิดขึ้นรวม 2 ครั้ง

วิธีการกระทำความผิด

ผู้ต้องหาเปิดเผยรายละเอียดวิธีการกระทำความผิดว่า ทุกครั้งที่ออกไปขโมยจะสวมหมวกแก็ปสีดำและใช้ผ้าขนหนูปิดบังใบหน้าเพื่อไม่ให้ใครจำได้ การเตรียมตัวนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหามีการวางแผนและเตรียมการอย่างรอบคอบ

ผู้ต้องหาเผยว่าตนมั่นใจว่าตำรวจจะจับไม่ได้แน่นอน เพราะตนไม่ใช่คนพื้นที่และมีการปกปิดตัวตนอย่างดี อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหายอมรับในภายหลังว่า “ตำรวจเก่ง” เมื่อถูกจับกุมได้

การเลือกเวลาในการกระทำความผิดจะเป็นช่วงเลิกงาน ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้คนในหอพักไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็น และเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการลักขโมย

ข้อกล่าวหาและการปฏิเสธ

ผู้ต้องหายืนยันว่าชุดชั้นในที่ได้มาตนแค่เอามาเก็บไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้น ไม่ได้เอามาใช้ในทางที่ผิดแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำไปดมซึ่งเป็นพฤติกรรมที่มักเกิดขึ้นในคดีประเภทนี้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อคำกล่าวของผู้ต้องหา โดยระบุว่าจากประสบการณ์ในการจัดการคดีประเภทนี้ พฤติกรรมของผู้กระทำความผิดกลุ่มนี้มักจะมีแรงจูงใจที่เกี่ยวข้องกับการดมกลิ่นจากเสื้อผ้าที่ขโมยมา

ความไม่เชื่อของเจ้าหน้าที่นี้มีพื้นฐานมาจากสถิติและรูปแบบของคดีที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งผู้กระทำผิดประเภทนี้มักจะมีแรงจูงใจทางจิตใจที่ซับซ้อนกว่าการเก็บสะสมธรรมดา

บทวิเคราะห์คดี

คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาทางจิตวิทยาและพฤติกรรมที่อาจต้องได้รับการศึกษาเพิ่มเติม การที่บุคคลหนึ่งเก็บสะสมชุดชั้นในผู้หญิงในจำนวนมากนั้น อาจมีสาเหตุที่ลึกกว่าการเก็บเป็นที่ระลึกธรรมดา

พฤติกรรมการขโมยแบบมีแบบแผนและการเตรียมการอย่างรอบคอบแสดงให้เห็นว่าผู้กระทำผิดมีแรงจูงใจที่แข็งแกร่งพอที่จะเสี่ยงต่อการถูกจับกุม สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าอาจมีปัจจัยทางจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้อง

จากมุมมองของการบังคับใช้กฎหมาย คดีนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีกล้องวงจรปิดในการสืบสวนและจับกุมผู้กระทำผิด แม้ว่าผู้ต้องหาจะมีการปกปิดตัวตน แต่การวิเคราะห์ภาพอย่างละเอียดก็สามารถนำไปสู่การจับกุมได้

ผลกระทบต่อชุมชน

การกระทำของผู้ต้องหาส่งผลกระทบต่อความรู้สึกปลอดภัยของผู้หญิงในชุมชน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในหอพัก ซึ่งอาจต้องเพิ่มความระมัดระวังในการตากผ้าหรือเก็บรักษาสิ่งของส่วนตัว

ชุมชนในพื้นที่อาจต้องหาแนวทางในการป้องกันอาชญากรรมประเภทนี้ เช่น การติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มเติม การจัดระบบรักษาความปลอดภัย หรือการสร้างเครือข่ายชุมชนเพื่อเฝ้าระวังซึ่งกันและกัน

สำหรับเจ้าของหอพักและสถานที่พักอาศัยต่างๆ คดีนี้เป็นเตือนใจให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและการดูแลผู้เช่า เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ในลักษณะนี้

กระบวนการยุติธรรม

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนต่อผู้ต้องหา ซึ่งเป็นความผิดที่มีโทษจำคุกและปรับตามกฎหมาย การดำเนินคดีจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ

ในระหว่างการสอบสวน ผู้ต้องหาได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างดี และไม่มีการขัดขืนหรือปฏิเสธข้อกล่าวหา ยกเว้นในส่วนของแรงจูงใจในการกระทำความผิด

ทนายความหรือที่ปรึกษากฎหมายอาจให้คำแนะนำแก่ผู้ต้องหาในการต่อสู้คดีหรือการขอความเมตตาจากศาล ขึ้นอยู่กับหลักฐานและสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง

บทเรียนและข้อคิด

คดีนี้ให้บทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยส่วนบุคคลและการดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนตัว แม้จะเป็นสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เช่น ชุดชั้นใน แต่ก็มีผลกระทบทางจิตใจต่อเหยื่อผู้เสียหายอย่างมาก

การที่ผู้กระทำผิดเป็นบุคคลต่างถิ่นที่เดินทางไปตามงาน แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการสร้างระบบเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ในชุมชนท้องถิ่นเท่านั้น แต่รวมถึงการติดตามและตรวจสอบบุคคลที่เข้ามาในพื้นที่ชั่วคราว

สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานในวัดหรือสถานที่สาธารณะ อาจต้องมีการคัดกรองพนักงานให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชน

สรุป

การจับกุมพนักงานสวนสนุกในข้อหาลักชุดชั้นในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ การแจ้งความของผู้เสียหายและการใช้เทคโนโลジีในการสืบสวนส่งผลให้สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้สำเร็จ

แม้ว่าผู้ต้องหาจะอ้างว่าเก็บของที่ขโมยมาไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้น แต่พฤติกรรมและรูปแบบการกระทำความผิดที่มีแบบแผนชัดเจนทำให้เจ้าหน้าที่มีความสงสัยในแรงจูงใจที่แท้จริง

คดีนี้จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป และคาดว่าจะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับการป้องกันอาชญากรรมประเภทนี้ในอนาคต การเสริมสร้างความปลอดภัยในชุมชนและการเฝ้าระวังซึ่งกันและกันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ควรได้รับการดูแลเอาใจใส่ทางจิตใจ และชุมชนควรร่วมมือกันสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนในพื้นที่