เปิดเบื้องลึก เหตุแตกตื่นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังเกิดเหตุตึงเครียดระหว่างทหารไทย-กัมพูชา

ข่าวอาชญากรรม ภัยสังคม สุรินทร์

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 13.25 น. เมื่อมีการโพสต์ข้อความเตือนภัยผ่านโซเชียลมีเดีย โดยบัญชีเฟซบุ๊ก “กัน จอมพลัง” ได้โพสต์ข้อความเตือนว่า “ด่วน คนที่กำลังขึ้นปราสาทตาเมือนธมตอนนี้อย่าพึ่งขึ้น คนที่อยู่ด้านในลงมาด่วน” พร้อมทั้งเพิ่มเติมในคอมเมนต์ว่า “ช่วยกันประชาสัมพันก่อนด่วน”

ข้อความเตือนดังกล่าวทำให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่นักท่องเที่ยวที่กำลังเดินทางขึ้นไปชมปราสาทแห่งประวัติศาสตร์ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสุรินทร์ที่ตั้งอยู่บนแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

คลิปวิดีโอเผยความจริงเหตุการณ์

ต่อมาได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ขณะที่เกิดขึ้น โดยในคลิปจะเห็นภาพนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินชมปราสาทเกิดความตื่นตระหนกและมีท่าทีเหมือนกำลังวิ่งหนีจากบางสิ่งบางอย่าง

เจ้าของคลิปได้ระบุข้อความประกอบว่า “ฉันอยู่ในจุดที่ทุกคนต้องวิ่ง ป่วนสุด 15/07/68 13:25 น. เขมรป่วน ปราสาทตาเมือนธม ทหารต้องควบคุมสถานการณ์ และเคลียร์นักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ด่วนค่ะ”

คลิปวิดีโอนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดความกังวลและเก็งกำนต่างๆ เกี่ยวกับสาเหตุของเหตุการณ์ โดยเฉพาะในประเด็นความมั่นคงของพื้นที่ชายแดนและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

รายละเอียดเหตุการณ์จากแหล่งข่าวภายใน

จากการรายงานของแหล่งข่าวภายในพบว่า เหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากนักท่องเที่ยวหญิงชาวกัมพูชา 1 คน ที่นั่งสังเกตการณ์กำลังพลทหารไทยบริเวณต้นขี้เหล็กทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นบริเวณใกล้กับบันไดทางขึ้นปราสาท

หญิงชาวกัมพูชาคนดังกล่าวได้แสดงความไม่พอใจและตำหนิฝ่ายไทยว่ามายืนในดินแดนของประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งไล่ให้ทหารไทยขึ้นไปข้างบนตัวปราสาทตาเมือนธม โดยมีท่าทีชี้หน้าทหารไทยและใช้คำพูดที่หยาบคาย

การตอบสนองของทหารไทย

เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทหารไทยได้พยายามใช้คำพูดอธิบายให้นักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาฟัง เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับขอบเขตพื้นที่และการปฏิบัติหน้าที่ตามโครงการความร่วมมือระหว่างสองประเทศ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาไม่ยอมรับฟังคำอธิบาย

สถานการณ์เริ่มบานปลายเมื่อฝ่ายกัมพูชาได้นำกำลังทหารที่เป็นชุดประสานงาน จำนวน 60 นาย มารวมตัวที่บริเวณทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม บริเวณบันได การมารวมตัวของทหารกัมพูชาจำนวนมากนี้ทำให้บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้น

ความตึงเครียดเพิ่มขึ้น

จากนั้นได้เริ่มมีปากเสียงทะเลาะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ชุดประสานงานทั้ง 2 ฝ่าย สถานการณ์กลายเป็นวิกฤตเมื่อฝ่ายไทยได้ยินเสียงเป็นภาษากัมพูชาที่มีเนื้อหาว่า “ให้หลบไปจะทำการตั้งปืน” ซึ่งถือเป็นการขู่ที่อาจนำไปสู่การใช้กำลังอาวุธ

เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดประสานงานฝ่ายไทยได้ยินคำขู่ดังกล่าว จึงรีบดำเนินการอพยพนักท่องเที่ยวออกจากปราสาทและนำพาออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ การอพยพนี้เป็นสาเหตุของความตื่นตระหนกที่เห็นในคลิปวิดีโอที่แพร่กระจายในโซเชียลมีเดีย

การคลี่คลายสถานการณ์

หลังจากเหตุการณ์ตึงเครียดประมาณ 10 นาที ผู้บังคับการระดับสูงจากทั้งสองฝ่ายได้เข้ามาเจรจาคลี่คลายสถานการณ์ โดยฝ่ายกัมพูชามี พันตรีกง รุน รองผู้บังคับพันทหารราบที่ 422 เป็นตัวแทนในการเจรจา

ในขณะที่ฝ่ายไทยมี พันเอกจักรกฤษ ปิยะศุภฤกษ์ ผู้บังคับพันทหารราบที่ 21 และร้อยเอกภัทรกร กลั่นการดี ผู้บังคับร้อยทหารราบที่ 211 เป็นตัวแทนในการเจรจา

การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองฝ่ายเป็นไปด้วยความราบรื่น และทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ พร้อมทั้งลดการกระทบกระทั่งที่อาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ

คำยืนยันจากแม่ทัพภาคที่ 2

พลเอกบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ออกมาให้คำชี้แจงต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่า ตนได้รับรายงานในเบื้องต้นแล้ว และขอยืนยันว่าสถานการณ์ยังคงปกติ ไม่มีเหตุการณ์ที่น่ากังวลใดๆ เกิดขึ้นอีก

ท่านแม่ทัพได้ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเน้นย้ำว่าเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พูดคุยกันเรียบร้อยและเข้าใจกันแล้ว การให้คำยืนยันจากผู้บังคับการระดับสูงนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในพื้นที่

ความสำคัญของปราสาทตาเมือนธม

ปราสาทตาเมือนธมเป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสุรินทร์ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรเขมรโบราณ มีอายุกว่า 1,000 ปี และตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีความสูงประมาณ 656 เมตรจากระดับน้ำทะเล

ที่ตั้งของปราสาทตาเมือนธมมีความพิเศษเนื่องจากอยู่บนแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้เป็นพื้นที่ที่ต้องมีการประสานงานและความร่วมมือระหว่างสองประเทศในการจัดการและดูแลรักษา รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวจากทั้งสองฝ่าย

ประเด็นการจัดการพื้นที่ชายแดน

เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนในการจัดการพื้นที่ชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณที่มีโบราณสถานสำคัญตั้งอยู่ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือและความเข้าใจระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศ

การที่มีนักท่องเที่ยวจากทั้งสองประเทศเดินทางมาเยือนปราสาทตาเมือนธมเป็นประจำ ทำให้จำเป็นต้องมีระบบการประสานงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเหตุการณ์ที่อาจสร้างความตึงเครียด

บทเรียนและการป้องกัน

เหตุการณ์ครั้งนี้แม้จะได้รับการคลี่คลายอย่างรวดเร็วและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็เป็นบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการมีระบบการสื่อสารและประสานงานที่ดีระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศ

การมีชุดประสานงานร่วมระหว่างไทยและกัมพูชาที่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่บานปลายไปในทางที่แย่ลง

ผลกระทบต่อการท่องเที่ยว

แม้ว่าเหตุการณ์จะได้รับการคลี่คลายแล้ว แต่การแพร่กระจายของข้อมูลและคลิปวิดีโอในโซเชียลมีเดียอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม การที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงออกมายืนยันความปลอดภัยและสถานการณ์ที่ปกติ น่าจะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นได้

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจต้องเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่วางแผนจะเดินทางมาเยือนปราสาทตาเมือนธมในอนาคต

ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำ

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์คล้ายคลึงกันในอนาคต หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาแนวทางต่างๆ เช่น การจัดทำป้ายแนะนำและข้อมูลในภาษาไทย กัมพูชา และอังกฤษ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าใจขอบเขตพื้นที่และกฎระเบียบต่างๆ

นอกจากนี้ การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้มีทักษะการสื่อสารและการจัดการความขัดแย้งเบื้องต้น รวมถึงการสร้างช่องทางการสื่อสารระหว่างทีมประสานงานของทั้งสองประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน

สรุป

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ปราสาทตาเมือนธมเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 แม้จะสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็ได้รับการคลี่คลายอย่างรวดเร็วและราบรื่น ด้วยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศ

การยืนยันจากพลเอกบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าสถานการณ์ได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว และการที่เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พูดคุยกันเรียบร้อย เป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการวิกฤตและการรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางไปเยือนปราสาทตาเมือนธม สามารถเดินทางได้ตามปกติ โดยควรติดตามข้อมูลข่าวสารและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยและเพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น