เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่วัดโพธิ์บ้านจอก ตำบลคอนสวรรค์ อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ หลังจากการจัดงานบุญฉลองพระธาตุคอนสวรรค์ระหว่างวันที่ 8-16 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นระยะเวลา 9 วัน 9 คืน
พระจักรกริช เลขาเจ้าคณะตำบลบ้านโสก เป็นผู้ดำเนินการจัดงานครั้งนี้ โดยมีกรรมการวัดและชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมช่วยเหลือในการดูแลงาน อย่างไรก็ตาม เมื่องานเสร็จสิ้น รายได้จากงานต่างๆ รวมถึงเงินบริจาคที่พระรูปดังกล่าวเปิดบัญชีส่วนตัวรับบริจาค ถูกนำไปโดยพระรูปนี้เป็นผู้จัดการเองทั้งหมด
วิธีการนำเงินออกจากวัด
แหล่งข่าวจากวัดเปิดเผยว่า หลังจากงานเสร็จสิ้น พระจักรกริชได้ใช้ให้คนสนิทของพระ ซึ่งประกอบด้วยบุคคลที่เป็น LGBTQ และผู้หญิงคนสนิท มาช่วยหอบเงินออกจากวัดไปอย่างลับๆ โดยไม่แจ้งให้กรรมการวัดหรือชุมชนทราบล่วงหน้า
เหตุการณ์นี้ทำให้วัดและชุมชนต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ เนื่องจากมีภาระหนี้สินจำนวนมากที่ต้องชำระ แต่เงินที่จะใช้ชำระหนี้เหล่านั้นถูกนำไปหมดแล้ว
การตื่นตัวของวัดและชุมชน
ทางวัดมาทราบเหตุการณ์นี้เมื่อประมาณ 5 วันก่อนหน้านี้ เมื่อมีคณะหมอลำมาทวงเงินค่าจ้างที่วัด จึงทำให้ทราบว่าเงินดังกล่าวถูกนำไปแล้ว และได้มีการเข้าแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
นายกาญ กาญจนวงศ์สกุล นายอำเภอคอนสวรรค์ ได้เดินทางไปยังวัดดังกล่าว พร้อมกับกรรมการวัดและชาวบ้าน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้มีการตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่ายของการจัดงานครั้งนี้อย่างละเอียด
ยอดเงินที่สูญหาย
จากการตรวจสอบบัญชี พบว่ายอดเงินที่พระจักรกริชนำไปและความเสียหายที่วัดต้องรับผิดชอบรวมทั้งสิ้น 1,154,135 บาท โดยแบ่งออกเป็น
- เงินที่พระรับไปจริง 913,972.50 บาท
- เงินที่วัดต้องกู้ยืมมาจ่ายหนี้ค่าไฟฟ้า-ประปา 140,000 บาท
- เงินบริจาคในบัญชีส่วนตัวของพระ ยังไม่ทราบยอดที่แน่นอน
นอกจากนี้ยังมีร้านค้าในพื้นที่ต่างๆ ในอำเภอคอนสวรรค์ที่ยังคงมาทวงถามค่าใช้จ่ายต่างๆ กับทางวัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับวัดและชุมชนอย่างมาก
พฤติกรรมที่น่าสงสัยของพระผู้ก่อเหตุ
จากการสอบถามกรรมการวัดและชาวบ้านในพื้นที่ พบว่าพระจักรกริชมีพฤติกรรมที่น่าสงสัยมาก่อนหน้านี้ โดยมักจะแจ้งยอดเบิกค่าใช้จ่ายไม่ตรงตามความเป็นจริง และมีการบวกเพิ่มยอดเงินไว้เป็นประจำ
ตอนหนึ่งที่เป็นตัวอย่างชัดเจน คือกรณีค่าจ้างหมอลำ ที่พระรูปนี้แจ้งกับวัดว่าต้องจ่าย 340,000 บาท แต่เมื่อไปทำสัญญาจริงกลับเป็นเพียง 310,000 บาท เท่านั้น ซึ่งชาวบ้านพอจะมองออกแต่ไม่กล้าพูดอะไร เพราะพระรูปดังกล่าวเป็นผู้ดำเนินการหลัก
พฤติกรรมเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงการขาดความโปร่งใสในการจัดการเงินทองของพระรูปนี้ และอาจเป็นสัญญาณของการกระทำผิดที่เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลานาน
การดำเนินการของเจ้าหน้าที่
นายอำเภอคอนสวรรค์ได้มอบหมายให้กรรมการวัดเข้าแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรคอนสวรรค์แล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน ได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามตัวพระจักรกริช ซึ่งล่าสุดมีข้อมูลว่าไปจำวัดในพื้นที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
ความพยายามในการเจรจาแก้ไขปัญหา
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่และกรรมการวัดกำลังหารือกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา มีข้อมูลว่าพ่อแม่ของพระจักรกริชได้ติดต่อเข้ามาขอเจรจา โดยแจ้งว่าจะนำเงินมาคืนให้กับทางวัดภายในวันที่ 6 มิถุนายน 2568
อย่างไรก็ตาม นายอำเภอคอนสวรรค์ได้ให้ความชัดเจนว่า หากไม่มีการเข้ามาเคลียร์ปัญหาหรือชดใช้เงินให้กับทางวัดตามที่สัญญาไว้ ทางราชการจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยไม่มีการผ่อนปรนใดๆ อีก
ผลกระทบต่อวัดและชุมชน
เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อวัดโพธิ์บ้านจอกและชุมชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในด้านการเงินและความเชื่อมั่นต่อพระสงฆ์
ด้านการเงิน วัดต้องรับภาระหนี้สินจำนวนมากที่ไม่ได้เป็นความผิดของตนเอง ทำให้ต้องหาแนวทางในการจัดหาเงินมาชำระหนี้เหล่านี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางศาสนาและการพัฒนาวัดในอนาคต
ด้านความเชื่อมั่น เหตุการณ์นี้ทำให้ศรัดธาของประชาชนต่อพระสงฆ์และสถาบันวัดลดลง ซึ่งอาจส่งผลต่อการบริจาคและการมีส่วนร่วมของชุมชนในกิจกรรมทางศาสนาในอนาคต
ด้านความสัมพันธ์ในชุมชน เหตุการณ์นี้ยังสร้างความขัดแย้งและความไม่ไว้วางใจในชุมชน เนื่องจากมีร้านค้าและผู้ให้บริการหลายรายที่ได้รับผลกระทบจากการไม่ได้รับชำระเงินตามที่ตกลงไว้
บทเรียนและข้อเสนอแนะ
กรณีนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการมีระบบการจัดการเงินทองที่โปร่งใสและมีการตรวจสอบที่เข้มงวดในสถาบันทางศาสนา
การจัดการเงินทองในวัด ควรมีการกำหนดระเบียบและขั้นตอนการจัดการเงินที่ชัดเจน โดยต้องมีการตรวจสอบจากหลายฝ่าย ไม่ควรปล่อยให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมีอำนาจเต็มที่ในการจัดการเงินทองของวัด
การจัดงานครั้งใหญ่ ควรมีคณะกรรมการที่มาจากหลายภาคส่วนเข้ามาร่วมดูแลและตรวจสอบการใช้จ่าย รวมถึงการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายที่โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
การเปิดบัญชีรับบริจาค ไม่ควรให้พระรูปใดรูปหนึ่งเปิดบัญชีส่วนตัวรับบริจาคโดยไม่มีการกำกับดูแล ควรมีระบบการจัดการที่โปร่งใสและมีการรายงานผลอย่างสม่ำเสมอ
ทิศทางการแก้ไขปัญหา
ในระยะสั้น ทางวัดและชุมชนกำลังรอการตอบสนองจากครอบครัวของพระจักรกริช ตามที่ได้ให้สัญญาไว้ว่าจะนำเงินมาคืนภายในวันที่ 6 มิถุนายน 2568
หากไม่ได้รับการตอบสนองตามที่สัญญาไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งอาจรวมถึงการออกหมายจับและการดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในระยะยาว ทางวัดและชุมชนจำเป็นต้องร่วมกันหาแนวทางในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและการจัดการเงินทองให้มีความโปร่งใสและน่าเชื่อถือมากขึ้น
สรุป
เหตุการณ์พระเลขาวัดหอบเงินหมอลำและเงินบริจาควัดหนีครั้งนี้ เป็นกรณีที่สร้างความเสียหายไม่เพียงแต่ในด้านการเงินเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อสถาบันพระสงฆ์อีกด้วย
ยอดเงินที่สูญหายกว่า 1.1 ล้านบาท เป็นจำนวนเงินที่มากพอที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับวัดและชุมชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเงินเหล่านี้เป็นเงินบริจาคจากศรัดธาของประชาชนที่มีต่อศาสนาและสถาบันวัด
การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการติดตามและดำเนินคดีตามกฎหมาย จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการสร้างความยุติธรรมและป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ขณะเดียวกัน เหตุการณ์นี้ควรเป็นบทเรียนสำหรับวัดและสถาบันทางศาสนาอื่นๆ ในการปรับปรุงระบบการจัดการเงินทองให้มีความโปร่งใสและมีการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต
สุดท้ายนี้ การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งพระสงฆ์ ฆราวาส และหน่วยงานของรัฐ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นและสร้างระบบการจัดการที่เหมาะสมสำหรับสถาบันทางศาสนาในอนาคต