ศบค.เคาะแผนฉีดวัคซีนเด็ก เริ่มฉีดป.6 ทุกจว.ก่อนให้ชั้นอื่น กลุ่มเสี่ยงฉีดที่รพ.

ข่าวด่วนเกาะกระแส

ศบค.เตรียมแผนบริการวัคซีน 2565 ครอบคลุม 70 ล้านคน ฉีดไฟเซอร์ฝาสีส้มให้เด็ก 5-11 ปี วัคซีนผู้ใหญ่ฝาสีม่วง 3.5 ล้าน ล็อตแรก

เมื่อวันที่ 20 ม.ค.65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ว่า ที่ประชุมรับทราบ การบริหารจัดการวัคซีนเดือนก.พ. จำแนกเป็น 4 แผนงาน ดังนี้ แผนการบริการฉีดวัคซีนเด็กอายุ 5-11 ปี ฝาสีส้ม 3 ล้านโดส และวัคซีนผู้ใหญ่ฝาสีม่วง 3.5 ล้าน ล็อตแรก จัดสรรให้สถานพยาบาลสำหรับกลุ่มอายุ 5-11 ปี ที่เป็นโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ไม่สามารถฉีดในสถานศึกษาได้

โดยต้องให้กุมารแพทย์เป็นผู้พิจารณา ล็อตถัดไป ดำเนินการผ่านระบบสถานศึกษา จัดสรรให้เด็กนักเรียนระดับชั้น ป.6 ในทุกจังหวัดเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นจัดสรรให้นักเรียนชั้นปีอื่นตามลำดับ ทั้งนี้คำแนะนำการฉีดวัคซีนสูตรฝาสีส้ม จากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย

เด็กอายุ 5-11 ปี ให้ฉีดวัคซีนชนิดไฟเซอร์ สูตรเด็กขนาด 10 ไมโครกรัม ปริมาณ 0.2 มล. เข้ากล้ามเนื้อ 2 ครั้ง ห่างกัน 3-12 สัปดาห์ โดยระยะห่างจะดีกว่า 3-4 สัปดาห์ เพราะได้รับระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่า และผลข้างเคียงน้อยกว่า คำแนะนำการฉีดวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระยะห่างระหว่างเข็ม 1 และ 2 เป็นเวลา 8 สัปดาห์ สูตรสำหรับฉีดผู้ใหญ่แลละเด็กมีความแตกต่างกัน ในแต่ละสถานพยาบาลควรแยกจุดฉีดหรือโต๊ะฉีด สำหรับฝาม่วงและฝาส้มให้ชัดเจน

โฆษก ศบค. กล่าวต่อว่า 2.แผนการรณรงค์เร่งรัดการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ในจังหวัดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวเป้าหมาย คือประชากรทุกสัญชาติที่อาศัยในพื้นที่ ระยะเวลาดำเนินการ วันที่ 17-31 มกราคม 2565 และอาจขยายไปจนถึงเดือนก.พ. ชนิดวัคซีน คือ แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ สำหรับเข็มกระตุ้น จำนวนเป้าหมายในการฉีด 2.5 ล้านคน แนวทางกระตุ้นเข็ม 3 ประวัติได้รับซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม-แอสตร้าเซนเนก้า เข็ม 3 เป็น แอสตร้าเซนเนก้า ระยะห่างระหว่างเข็ม 2และ 3 คือ 3 เดือนขึ้นไปหลังฉีดเข็ม

2 ฉีดวัคแอสตร้าเซนเนก้า-แอสตร้าเซนเนก้า วัคซีนเข็ม 3 คือ ไฟเซอร์ ระยะห่างระหว่างเข็ม 2และ 3 คือ 3 เดือนขึ้นไปหลังฉีดเข็ม 2 และแนวทางการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 4 ประวัติได้รับวัคซีน เข็ม 1-2 ซิโนแวค-ซิโนแวค เข็ม 3 แอสตร้าเซนเนก้า เข็ม 4 ให้ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า ระยะห่างระหว่างเข็ม 3และ 4 คือ 3 เดือนขึ้นไปหลังฉีดเข็ม 3 ส่วนประวัติการฉีดเข็ม 1-2คือ ซิโนแวค-ซิโนแวค เข็ม 3 ไฟเซอร์ ให้ฉีดเข็ม 4 เป็นไฟเซอร์ ระยะห่างระหว่างเข็ม 3 และ 4 คือ 3 เดือนขึ้นไปหลังฉีดเข็ม 3

3.แผนการฉีดวัคซีนแลกเปลี่ยนคืนต่างประเทศ ส่งคืนประเทศสิงคโปร์ และภูฏานและ4.แผนการฉีดวัคซีนแก่ต่างประเทศ (กระทรวงต่างประเทศจะนำเสนอรายละเอียดเพิ่มเติม) โดยจะให้ประเทศเพื่นอมาและประเทศในทวีปแอฟริกา ผ่านโครงการ AVAT หรือองค์การอนามัยโลก

ซึ่งนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า นี่คือเรื่องสำคัญ เราต้องดูแลเพื่อนบ้านของเราเพราะเพื่อสัมพันธภาพที่ดี และเพื่อป้องกัน และควบคุมโรคได้ด้วย ถ้ามีเรามีภูมิและเขามีภูมิจะเป็นการป้องกันโรคได้ดี หากพวกเข้าไม่มีภูมิคุ้มกัน เป็นความเสี่ยงที่จะนำเชื้อเข้ามา และเราต้องพึ่งพาอาศัยแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเราด้วย

“สรุปจำนวนและกลุ่มเป้าหมายในการให้บริการวัคซีนโดยรวม เดือนกุมภาพันธ์ 2565 กลุ่มเป้าหมาย คือประชากรทุกคนในแผ่นดินไทย แบ่งเป็น ผู้ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน (เข็ม 1-2) จำนวน 0.5 ล้านราย สูตรวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า-แอสตร้าเซนเนก้า หรือ แอสตร้าเซนเนก้า-ไฟเซอร์ ผู้ที่มีอายุ 12-17 ปี ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน (เข็ม 1-2) จำนวน 0.05 ล้านราย ไฟเซอร์-ไฟเซอร์ (ฝาสีม่วง) เด็กอายุ 5-11 ปี ที่มี 7 กลุ่มโรคเรื้อรังและนักเรียนระดับชั้น ป.5-6 (เข็ม1) จำนวน 1 ล้านราย

ไฟเซอร์-ไฟเซอร์ (ฝาส้ม) เข็มกระตุ้นในผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ (ประชาชนทั่วไป กลุ่มเสี่ยง กลุ่มผู้ประกันตน) จำนวน 8 ล้านราย ฉีดซิโนแวค-แอสตร้าเซนเนกนา-แอสตร้าเซนเนก้า หรือ แอสตร้าเซนเนก้า- แอสตร้าเซนเนก้า-ไฟเซอร์ เข็มกระตุ้นในผู้ที่เคยติดเชื้อ จำนวน 0.5 ล้านราย ฉีด แอสตร้าเซนเนก้า สำรองสำหรับตอบโต้การระบาด จำนวน 1 ล้านราย ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า รวมทั้งหมดใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 8 ล้านโดส และ ไฟเซอร์ 3.6 ล้านโดส” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

อ้างอิง
https://www.khaosod.co.th/covid-19