(9 พ.ย.63) ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตผู้ป่วยทั่วโลกแล้วมากกว่า 1.25 ล้านคน จากผู้ติดเชื้อมากกว่า 50 ล้านคน รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า เมื่อกลางเดือนตุลาคม องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เคยระบุว่า มีวัคซีนแคนดิเดต 42 ชนิดที่อยู่ในขั้นทดลองทางคลินิก เพิ่มขึ้นจากที่เคยมี 11 ชนิดเมื่อกลางเดือนมิถุนายน และมีวัคซีน 10 ชนิดที่ทดลองอยู่ในระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะสุดท้าย โดยเป็นการทดสอบประสิทธิภาพกับกลุ่มคนขนาดใหญ่ หรือนับหมื่นคนจากหลายทวีป
คำแถลงของไฟเซอร์กล่าวว่า วัคซีนชนิดใหม่ BNT162b2 เริ่มทำการทดลองระยะสุดท้ายเมื่อเดือนกรกฎาคม จนถึงขณะนี้ทำการทดลองแล้วกับผู้เข้าร่วม 43,538 คน จาก 6 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐ, เยอรมนี, บราซิล, อาร์เจนตินา, แอฟริกาใต้ และตุรกี โดยให้วัคซีน 2 โดส ห่างกัน 3 สัปดาห์ และพบว่า หลังจากรับวัคซีนโดสที่ 2 แล้ว 7 วัน วัคซีนนี้ประสบความสำเร็จในการป้องกันการติดเชื้อได้ 90%
ไฟเซอร์และไบออนเทค บริษัทยาจากเยอรมนี กล่าวว่า พวกเขายังไม่พบปัญหาน่ากังวลร้ายแรงเรื่องความปลอดภัยจากการใช้วัคซีนนี้ และคาดว่าจะขอให้สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (เอฟดีเอ) อนุมัติการใช้วัคซีนแบบฉุกเฉินได้ภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายนนี้
อย่างไรก็ดี หากได้รับอนุมัติ จำนวนโดสของวัคซีนที่ผลิตได้ยังคงมีจำกัด โดยไฟเซอร์เชื่อว่า บริษัทจะสามารถผลิตวัคซีนนี้ได้ 50 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ และราว 1,300 ล้านโดสภายในสิ้นปีหน้า
นอกจากนี้ยังมีคำถามอีกมากด้วย รวมถึงวัคซีนนี้สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้นานเท่าใด กระนั้นข่าวนี้ถือเป็นข่าวดีที่ให้ความหวังว่าวัคซีนชนิดอื่นๆ ที่อยู่ในขั้นพัฒนา ก็อาจผ่านการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพเช่นกัน.
เครดิต https://www.thaipost.net/main/detail/83333
