จี้สอบ “ที่ดินบ้านจัดสรรทหาร” ทำมา 20 ปี สร้างความร่ำรวยให้นายทหารระดับสูง

ข่าวด่วนเกาะกระแส

สืบเนื่องจากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ กรณี จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี นายทหารสังกัดกองสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 ก่อเหตุใช้ปืนส่วนตัวยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส ผู้บังบัญชา และ นางอนงค์ มิตรจันทร์ แม่ยายของ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ เสียชีวิต

ก่อนเข้าชิงอาวุธปืนสงครามจากค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ยิงทหารเวรอีก 3 นาย ขับรถฮัมวี่หลบหนีออกไป ทางวัดป่าศรัทธารวม ด้านข้าง โรงเรียนบุญวัฒนา พร้อมยิงประชาชน และ บุกเข้ามาในห้างเทอมินอล 21 กราดยิงประชาชนที่มาใช้บริการภายในห้าง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนถึง 30 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก

โดยสาเหตุเบื้องต้น มีการสันนิษฐานว่า เกิดจากการที่ผู้ก่อเหตุไปทวงเงินส่วนต่างซื้อขายที่ดินบ้านจัดสรร แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงก่อเหตุสังหาร พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ ผู้บังบัญชา และ นางอนงค์ แม่ยายของ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ เสียชีวิต ก่อนที่จะก่อเหตุร้ายแรงตามมา

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2563 ได้รับการเปิดเผยจากตัวแทนกลุ่มธรรมาภิบาล จังหวัดนครราชสีมา ว่า ได้ติดตามข้อมูลปัญหานายหน้าซื้อขายที่ดินบ้านจัดสรรทหารในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาดังกล่าว และมีความเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องรีบเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วนอย่ามองข้ามเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในอนาคตขึ้นมาอีก

ตัวแทนกลุ่มธรรมาภิบาล จังหวัดนครราชสีมา ระบุว่า ในกรณีนายหน้าซื้อขายที่ดินบ้านจัดสรรทหาร จากการตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ พบว่า
1. เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เกี่ยวข้องกับนายทหารระดับสูงและเครือญาติ

2.ทหารผู้น้อยจะเกรงใจนายทหารมากจึงไม่มีสัญญาอะไร และทหารผู้น้อยไม่มีความรู้ด้านกฏหมาย

3.โครงประเภทนี้ทำกันมานานกว่า 20ปี สร้างความร่ำรวยให้คนจับเสือมือเปล่า ซื้อถูกแต่ขายแพงให้ลูกน้อง

4. สะท้อนการปล่อยปละละเลย ของผู้บังคับบัญชา

” กรณีสร้างบ้านขายของทหาร เป็นเรื่องที่ต้องรีบเร่งหาทางแก้ไขโดยด่วน อย่ามองข้าม เพราะผู้บังคับบัญชาทำเอง ลูกน้องโต้ตอบไม่ได้ จึงแสดงออกในเชิงความรุนแรง ทำให้คนบริสุทธิ์เดือดร้อน

ควรศึกษาสาเหตุด้วยว่าผู้ก่อเหตุลงมือเพราะอะไร จะได้ป้องกันได้ในอนาคต

ขณะที่กองทัพควรจะต้องตั้งกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้โดยด่วน เพราะเป็นภาพลบต่อกองทัพบกอย่างมาก”

ตัวแทนกลุ่มธรรมาภิบาล จังหวัดนครราชสีมา ยังระบุด้วยว่า นครราชสีมาเป็นเมืองขนาดใหญ่ งบประมาณมีจำนวนมาก ปัญหาการทุจริตก็มีมากตามไปด้วย โดยนอกจากปัญหาเรื่องนายหน้าซื้อขายที่ดินบ้านจัดสรรทหารดังกล่าวแล้ว

ภาคประชาชนด้านการตรวจสอบทุจริตและประพฤติมิชอบ ยังให้ความสนใจติดตามปัญหากรณีสหกรณ์ครูโคราชที่มีเงินหมุนเวียน 2-3หมื่นล้านบาท สมาชิกเกือบ3หมื่นคน กำลังมีปัญหาเรื่องการใช้จ่ายเงินภายใน ซึ่งส่วนราชการยังไม่มีบทบาทเข้ามาช่วยเหลือสมาชิกเท่าที่ควร

รวมไปถึงกรณีการทุจริตโครงการอาหารกลางวัน และการจัดซื้อจัดจ้างสนามฟุตซอล 56 โรงเรียน ที่มีครอบครัวนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ปัญหาเกิดตั้งแต่ปี 2555 จนถึงวันนี้ผ่านไป 8 ปี เรื่องยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ซึ่งปัญหาความไม่ชอบมาพากลลักษณะนี้ จะมีผลกระทบต่อรัฐบาลได้

ทางกลุ่มเครือข่ายต่อต้านการทุจริตฯ นครราชสีมา จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งรัดสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาโดยด่วน