(15 ธ.ค.63)นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ระบบลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (เฟส 2) พร้อมสำหรับการลงทะเบียนของประชาชนเพิ่มเติมอีก 5 ล้านคนวันที่ 16 ธ.ค.63 ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น.แล้ว และจะเริ่มใช้จ่ายได้วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.64 จากก่อนหน้านี้ ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 10 ล้านคน แต่ถูกตัดสิทธิ์ราว 500,000 คน เพราะไม่ใช้จ่ายภายใน 14 วันตามกำหนด ซึ่งได้นำมานับรวมในสิทธิ์ 5 ล้านคนใหม่แล้ว อีกทั้งยังพบการกระทำความผิดของร้านค้าและประชาชน 700 คดี ส่งให้ตำรวจสอบสวนแล้ว และจะแถลงข่าวสัปดาห์นี้ ขณะที่โครงการเราเที่ยวด้วยกัน หากพบความผิดปกติ จะส่งให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตรวจสอบต่อไป
ด้านนางสาวกุลยา ตันติเตมิท รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และโฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า ผู้ได้รับสิทธิ์กลุ่มเดิม 10 ล้านคนกดปุ่มยืนยันเข้าร่วมโครงการระยะที่ 2 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.63 เป็นต้นไป และเริ่มใช้เงิน 500 บาทที่ได้รับเพิ่มเติมได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.64 คาดว่า คนละครึ่งเฟส 2 และการเติมเงินใส่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมอีก 500 บาท นาน 3 เดือน จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปี 64 เพิ่มขึ้นได้ 0.2% จากการมีเม็ดเงินลงไปในระบบกว่า 60,000 ล้านบาท
“ผู้ใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งระยะแรก และระยะที่ 2 จะไม่สามารถใช้สิทธิ์มาตรการช้อปดีมีคืนได้ ส่วนผู้ประกอบการร้านค้ายังคงสมัครเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 13 ธ.ค.63 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 970,000 ร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิ์แล้ว 9.5 ล้านคน มียอดใช้จ่ายสะสม 43,330.80 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 22,156.50 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 21,174.3 ล้านบาท โดยจังหวัดที่ใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ สงขลา ชลบุรี เชียงใหม่ และนครศรีธรรมราช”
ขณะที่นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทยกล่าวว่า ขณะนี้เตรียมความพร้อมระบบการลงทะเบียนรองรับนักลงทะเบียนมือไฟไว้แล้ว โดยระบบรองรับการลงทะเบียนได้ถึง 500,000 รายการต่อวินาที และยังได้พัฒนาระบบการส่งรหัสผ่าน OTP ที่ล่าช้า ด้วยการเพิ่มผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมจาก 1 ราย เป็น 2 ราย เพื่อลดการกระจุกตัวของข้อมูล สามารถรองรับการส่งข้อความได้ถึง 9,000-8,000 ข้อความต่อวินาที
ส่วนนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่าเราเที่ยวด้วยกัน ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เพิ่มห้องพักให้รวมเป็น 6 ล้านห้อง สิ้นสุดโครงการวันที่ 30 เม.ย.64ล่าสุดมีผู้ใช้สิทธิ์ 5 ล้านห้องแรกครบแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยังเหลือห้องพัก 225,922 คืน ตั๋วเครื่องบิน 1.68 ล้านใบ แต่ได้จองใช้สิทธิ์จนหมดอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.63 ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ประสานกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทย วิเคราะห์ธุรกรรม และประสานสมาคมโรงแรมไทย หาทางป้องกันการฉ้อโกงแล้ว โดย ททท.จะแถลงข่าวการฉ้อโกงโครงการวันที่ 15 ธ.ค.นี้ “การจองที่รวดเร็วเป็นพิเศษ อาจได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน แต่ต้องตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ การฉ้อโกงพบได้ในแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวก่อนหน้านี้”.
เครดิต https://www.thairath.co.th/news/business/1994953
