จากการสืบทราบของ จ่าเอกแก้ว คงวงศ์ ป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าจะมีคนลักลอบขนยาเสพติดผ่านช่องทางธรรมชาติ ใกล้ชายแดนไทย- เมียนมาที่จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบฯ
ต่อมาเวลา 19.30 น. วันที่ 20 ก.พ.63 จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ อส.ร่วมเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ตำรวจภูธร สภ.คลองวาฬ ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่ด่านประชารัฐ ถนนเพชรเกษม- ด่านสิงขร หมู่ 6 ต.คลองวาฬ พบรถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน ผฉ 820 นครปฐม ด้านหลังบรรทุกกล้วยน้ำว้ามาเต็มคันขับผ่านตรงตามที่สายรายงาน จึงให้เรียกหยุดเพื่อขอตรวจค้น
พบใบกระท่อมผงบดละเอียดบรรจุกระสอบนับสิบกระสอบ น้ำหนักรวม 619 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท ซุกซ่อนอยู่โดยมีกล้วยน้ำว้าปิดทับตบตาเจ้าหน้าที่ จึงควบคุมตัวคบขับทราบชื่อ นายทองมี เวนะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96หมู่ 5 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และ นายณรงค์ ไพรจิต อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 818 หมู่ 8 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ ที่นั่งมาด้วยนำตัวมาสอบสวน
จ่าเอกแก้ว กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่านายทองมีเคยถูกจับกุมคดีลักลอบขนใบกระท่อมผงและอยู่ระหว่างการประกันตัว ล่าสุดให้การรับสารภาพว่ารับจ้างขนใบกระท่อมผงในราคา 5 หมื่นบาท จากนายทุนคนหนึ่งที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน นำไปส่งให้ลูกค้าที่ท่าเรือ ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี เพื่อขายให้แรงงานประมงชาวเมียนมา แต่ระหว่างทางโดยจับกุมเสียก่อน
สำหรับใบกระท่อมผงบดละเอียดได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้แรงงานประมงชาวเมียนมาชงกินแทนน้ำชาและผสมกาแฟ ปัจจุบันมีราคาจำหน่ายกิโลกรัม (กก.) ละ 2,000 บาท
สำหรับการลักลอบนำเข้าในบริเวณช่องทางธรรมชาติ พบว่าขณะนี้หลายช่องทางใช้รถจักรยานยนต์หรือสามารถเดินทางข้ามไปมาโดยสะดวก ทั้งนี้จะได้สอบสวนขยายผลก่อนนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองวาฬ ดำเนินคดีต่อไป.
