วงแตก! กลุ่มพิสูจน์ “ไฟปริศนากระสือ” ล้มแผน หลังจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ไม่สำเร็จ

ข่าวด่วนเกาะกระแส

(5 กันยายน 2563) จากกรณีที่มีผู้พบเห็นดวงไฟประหลาด 2 ดวง ในพื้นที่หมู่ 17 บ้านเขาน้อย ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างเชื่อว่าเป็นแสงไฟจากผีกระสือ หรือสิ่งเร้นลับที่อยู่ในพื้นที่ และเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 3 ก.ย.ได้มีชายหนุ่มในหมู่บ้านซึ่งเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์และสิ่งเร้นลับโดยเฉพาะเรื่องดวงไฟประหลาดแต่กลับพบเจอเข้ากับตัวเองในขณะที่กำลังจะกลับบ้านจนถึงกับผงะทำอะไรไม่ถูก

นายประทวน หรือ แมน สายอยู่ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นลูกชายนางมาลัยทอง สายอยู่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 17 บ้านเขาน้อย เปิดเผยว่า ปกติตนไม่เคยเห็นและไม่เคยเชื่อเรื่องนี้มาก่อน โดยค่ำวานนี้ขณะที่ตนนอนเล่นอยู่ที่เปลหน้าบ้านก็ได้พูดว่า ดวงไฟที่มาปรากฏนั้นตนอยากรู้ว่าเขาต้องการอะไร อยากได้อะไร ตนอยากเห็นว่าดวงไฟนี้มันคืออะไร ถ้าเป็นดวงวิญญาณหรือเป็นกระสือให้มาปรากฏกายให้เห็นหน่อย จะได้ทำบุญไปให้ พอพูดไปได้ไม่เกินชั่วโมงประมาณ 4 ทุ่ม ก็ออกมานอนที่เปลหน้าบ้านได้มีแมลงมาเข้าหูทำอย่างไรก็เอาไม่ออก จึงให้แฟนขับรถยนต์พาไปโรงพยาบาลวิเชียรบุรีเพื่อให้หมอช่วยเอาออก เมื่อเอาออกแล้วจึงเดินทางกลับ

ตอนนั้นเวลาประมาณใกล้เที่ยงคืนและขณะที่ตนขับรถมาใกล้จะถึงบ้านมองไปทางด้านซ้ายมือก็เห็นมีลูกไฟอะไรสักอย่างลอยเหมือนจะตามเรา พอกลับมาถึงบ้านก็มานั่งสัก 5 นาที เวลา 5 ทุ่ม 45 ก็มองเห็นแสงลอยขึ้นเลยชะโงกหัวออกไปดูแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายก็เห็นดวงไฟลอยไปลอยมา แล้วค่อยๆ ลอยไปตกและดับอยู่ที่บริเวณป่าอ้อย ตนจึงเรียกพี่ชายแต่พี่ชายไม่ได้ยินเพราะมัวแต่เล่นโทรศัพท์ตนจึงได้ใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปไว้และเก็บเรื่องนี้ไว้จนกระทั่งรุ่งเช้าจึงเล่าให้แม่ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านฟัง พร้อมกับชักชวนชาวบ้านเตรียมที่จะเข้าไปพิสูจน์จุดที่ลูกไฟตกในช่วงค่ำของวันนี้

ต่อมานางมาลัยทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 17 บ้านเขาน้อย พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปยังบริเวณจุดที่คาดว่าดวงไฟประหลาดตกพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นป่าอ้อยโดยมีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ และตรงข้ามสระน้ำมีศาลเจ้าที่เจ้าทางที่ทำด้วยสังกะสี และใกล้ๆ กับศาลก็เป็นห้องน้ำร้าง โดยมีจอมปลวกขึ้นอยู่ใต้พื้นและมีผ้าสามสีพันอยู่กับจอมปลวกด้วย

นายพิทยา ขุนนิทักษ์ อายุ 65 ปี เจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว กล่าวว่า ตนซื้อที่ดินแปลงนี้มาจากชาวบ้านรายหนึ่งหลายปีแล้ว โดยได้ปลูกอ้อยมาทุกปี แต่ก่อนหน้านั้นสระน้ำมีขนาดเล็กและมีศาลตั้งอยู่ข้างๆ ตนต้องการที่จะขุดสระให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อจะได้กักเก็บน้ำได้มากขึ้น จากนั้นได้ย้ายศาลมาไว้ข้างๆ กับห้องน้ำ ที่ผ่านมาตนเห็นแสงไฟเป็นประจำแต่คิดว่าเป็นไฟฉายจากคนที่มาส่องกบส่องเขียดจึงไม่ได้สงสัยหรือกลัวอะไร กระทั่งมาทราบข่าวว่ามีสิ่งเร้นลับเกิดขึ้นวันนี้จึงได้นำธูปเทียนมากราบไหว้ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่เจ้าทางหากมีการลบหลู่หรือทำในสิ่งไม่ดี และขณะที่ตนกำลังจุดธูปเทียนและกำลังบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางอยู่นั้น จู่ๆตนก็มีความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาสะกิดและพูดไม่ออกอยากจะร้องไห้อย่างเดียวและจิตใจไม่ค่อยดี

ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านที่เดินทางมาด้วยกันได้สังเกตเห็นนายพิทยามีอาการที่ผิดปกติ หยุดพูดกะทันหันเงียบไปพักใหญ่จากนั้นได้ร้องไห้เสียงดังออกมาทำให้นายประทวนรีบเข้าไปประคองตัวนายพิทยาไว้ ขณะที่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์รวมทั้งผู้สื่อข่าวต่างก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อหายตกใจจึงได้ช่วยกันปลอบนายพิทยาให้หยุดร้องไห้ ซึ่งนายพิทยาก็ได้พยายามที่จะบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางจนเสร็จแต่ก็บอกกล่าวไปด้วยร้องไห้ไปด้วย จากนั้นทั้งหมดก็รีบเดินทางออกจากพื้นที่ทันทีโดยไม่มีใครกล้ารอพิสูจน์แสงไฟกันเลยแม้แต่คนเดียว