รอยเตอร์ – รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันศุกร์(31ม.ค.) ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขแห่งชาติรับมือกับการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และบอกว่าจะใช้มาตรการพิเศษห้ามพลเมืองต่างชาติที่เคยเดินทางไปจีนช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เดินทางเข้าสหรัฐฯ
อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์สหรัฐฯระบุในคำแถลงว่า “พลเมืองต่างชาติ ยกเว้นครอบครัวปัจจุบันของพลเมืองสหรัฐฯและผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวร ใครก็ตามที่เดินทางไปจีนภายในช่วง 14 วันหลังสุด จะถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าสหรัฐฯในเวลานี้”
คำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 17.00น.ET ตรงกับเมืองไทย(05.00น.ของวันที่ 3 ก.พ.) นอกจากนี้แล้วพลเมืองสหรัฐฯรายใดที่เดินทางกลับจากหูเป่ย มณฑลซึ่งเป็นแก่นกลางของการแพร่ระบาด จะต้องอยู่ภายใต้คำสั่งบังคับกักกันเป็นเวลา 14 วัน
“พลเมืองสหรัฐฯรายใดก็ตามที่ไปพำนักอยู่ตามเมืองต่างๆในจีนแผ่นดินใหญ่ในช่วง 14 วันที่ผ่านมาและกำลังเดินทางกลับสหรัฐฯ จะถูกคัดครองทางสุขภาพเชิงรุกตอนขาเข้า ตามท่าขาเข้าที่กำหนดไว้และจะต้องเฝ้าระวังกักกันตนเองที่บ้านพักสูงสุดเป็นเวลา 14 วัน” อาซาร์กล่าว
นอกจากนี้เขายังบอกด้วยว่ารัฐบาลจะจำกัดเที่ยวบินที่มาจากจีน โดยให้ไปลงที่ท่าอากาศยาน 7 แห่งของสหรัฐฯ “มาตรการต่างๆที่เราใช้เป็นการเติมเต็มการทำงานของจีนและองค์การอนามัยโลกให้สมบูรณ์ ในความพยายามยับยั้งการแพร่ระบาดในจีน” อาซาร์กล่าว
โรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยว่าตอนนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการยืนยันในอเมริกาแล้ว 6 ราย และมีอยู่ 191 รายที่อยู่ภายใต้การสังเกตอาการ
อย่างไรก็ตาม เรดฟิลด์ เน้นย้ำว่าความเสี่ยงของการแพร่ระบาดสู่สาธารณชนในสหรัฐฯยังอยู่ในระดับต่ำ
ไวรัสคล้ายไข้หวัดนี้ ซึ่งมีแหล่งต้นตอในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ถูกระบุตัวตนครั้งแรกในช่วงต้นเดือน และปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตในจีนแล้ว 213 ราย
ขณะเดียวกันตัวเลขผู้ติดเชื้อในจีน พุ่งทะยานมากกว่า 9,800 คน และเคสผู้ติดเชื้อมากกว่า 130 เคสถูกพบในประเทศต่างๆอย่างน้อย 25 ชาติทั่วโลก ในนั้นรวมถึงรัสเซีย, อังกฤษ, สวีเดนและอิตาลี ซึ่งทั้งหมดรายงานพบผู้ติดเชื้อรายแรกในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) และวันศุกร์(31ม.ค.)
เมื่อวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯประกาศเตือนพลเมืองอเมริกา อย่าได้เดินทางไปยังจีน สืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้
