เผย!” น้องอิ่มบุญ” เหยื่อ “ปุ๊ก” ถูกหยอดยาจนหลอดอาหารทะลุ เหมือน “น้องอมยิ้ม” ที่เสียชีวิต

ข่าวด่วนเกาะกระแส

จากกรณี “น้องอิ่มบุญ” วัย 2 ขวบ ถูก นางสาวนิษฐา วงวาล หรือ แม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นแม่ของเด็ก โพสต์รูปและวิดีโอลูกป่วย เพื่อขอรับบริจาคค่ารักษา กระทั่งเข้ารับการรักษา พบว่าตัวเด็กถูกวางยา ด้วยการแอบหยอดสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน

ก่อนถูกตำรวจจับกุมและดำเนินคดีในหลายคดี อีกทั้งยังตั้งข้อสงสัยถึง “น้องอมยิ้ม” ซึ่งเป็นพี่สาวน้องอิ่มบุญ ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนธ.ค. 62 ก็มีอาการเดียวกันก่อนเสียชีวิตนั้น ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด วันนี้ (25 พ.ค. 2563 ) รศ.นายแพทย์ พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่า น้องอิ่มบุญได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 13-23 ม.ค. 63 ที่ผ่านมาด้วยอาการอาเจียนเป็นเลือด โดยแม่ปุ๊กให้ข้อมูลว่าก่อนมาโรงพยาบาล 4 ชั่วโมง น้องอาเจียนเป็นเลือดหลังกินหมึกย่าง ขณะนั้นได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่อุบลราชธานี

จากนั้นทางโรงพยาบาลจึงมีการส่องกล้องเพื่อหาต้นเหตุว่าทำไมน้องอิ่มบุญ อาเจียนเป็นเลือดสีดำ ซึ่งก็พบการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหาร หลังจากนั้นน้องก็ได้รับการดูแลอยู่ที่หอผู้ป่วยพิเศษ โดยทางทีมแพทย์ก็ดูแลจนน้องสามารถทานนม และช็อกโกแลตได้

จากนั้นวันที่ 23 ม.ค. น้องอิ่มบุญก็มีอาการปวดท้องกะทันหัน อาเจียนเป็นเลือด ปากบวม อุจจาระเหลวดำ เมื่อส่องกล้องก็พบ มีแผลอักเสบรุนแรงที่กระเพาะอาหาร เนื่องจากได้รับสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ซึ่งตอนนั้นก็ยังพิสูจน์ไม่ได้

โดยน้องอิ่มบุญได้รับการรักษาอยู่ที่ไอซียู ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.ถึง 15 พ.ค.ตลอดเวลาน้องอยู่ไอซียูน้องก็มีอาการดีขึ้น และเตรียมตัวที่จะออกโรงพยาบาล แต่ภาวะแทรกซ้อนที่มีอยู่ คือ หลอดอาหารทะลุถึงข้างลำคอ เสียงแหบ เหนื่อย เนื่องจากปอดอักเสบรุนแรง เราก็รักษาจนอาการดีขึ้น และออกจากโรงพยาบาลไป เมื่อ 18 พ.ค.ก็ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ไปดูแล (“น้องอิ่มบุญ” วัย 2 ขวบ หนึ่งในเหยื่อปุ๊กวางยา ล่าสุดทานข้าวได้ปกติแล้ว)

ส่วนเคสของ “น้องอมยิ้ม” พี่สาวของ “น้องอิ่มบุญ” นั้น จากประวัติการรักษาพบว่า น้องอมยิ้มเข้ามา 20 ธ.ค. 61 เสียชีวิต 12 ส.ค. 62 เราดูแล 8 เดือน เข้าออกโรงพยาบาล 7 ครั้ง ซึ่งอาการคล้ายกับของน้องอมยิ้ม

ส่วนสาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตของ “น้องอมยิ้ม” มีด้วยกัน 3 เหตุ คือ เลือดออกทางเดินอาหารส่วนบน เยื่อบุต่างๆ อักเสบ ซ้ำไปซ้ำมา ความดันโลหิตสูง ก็ยังหาสาเหตุไม่พบ และตับและไตวาย มาจากโรคแทรกซ้อน เนื่องจากเลือดออกในทางเดินอาหารซ้ำไปมา

รศ.นายแพทย์พฤหัส กล่าวอีกว่า ในเมืองไทยมีสิทธิ์การรักษา ไม่ว่าจะเป็น สปสช. หรือที่เคยเรียกว่า 30 บาท ประกันสังคม และสิทธิ์การรักษาของข้าราชการ ซึ่งอยากจะเรียนว่า หากค่าใช้จ่ายการรักษาไม่เพียงพอก็สามารถแจ้งกับโรงพยาบาล และสังคมสงเคราะห์ที่ตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อขอรับการช่วยเหลือ โดยไม่ต้องขอรับบริจาค

สำหรับเคสของน้องอิ่มบุญใช้สิทธิ์ 30 บาท แม้ว่าอุปกรณ์บางอย่าง หรือยาบางตัวสิทธิ์อาจไม่ครอบคลุม แต่เราก็มีกองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยในกรณีที่ไม่มีเงิน ก็ไม่จำเป็นต้องขอรับบริจาค นอกจากนี้มีกองทุน และมูลนิธิของแต่ละแห่งก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ