ข้อตกลงความร่วมมือพิเศษ 3 ชาติ “ทางด่วนการทูต” ให้ญี่ปุ่นอพยพพลเรือนจากอู่ฮั่น

ข่าวต่างประเทศ

ระหว่างวันที่ 24-25 ธันวาคม 2562 รัฐบาลญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้มีความร่วมมือพิเศษระหว่าง 3 ชาติ โดยผู้นำ 3 ชาติเพิ่งประชุมสุดยอดร่วมกันที่มณฑลเสฉวนของจีน ถึงแม้ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ จะมีความระหองระแหงอยู่บ้าง แต่การติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่จนถึงรัฐมนตรียังมีเป็นประจำ และครอบคลุมหลายด้าน

รัฐมนตรีสาธารณสุขของ 3 ประเทศได้ประชุมร่วมกันครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่เกาหลีใต้ ประกอบด้วย ปาร์ก น็อง โฮ รัฐมนตรีสาธารณสุขเกาหลีใต้, หม่า เสียวเหว่ย ประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีน และ คัตสึโนบุ คาโต รัฐมนตรีสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น

การประชุมเมื่อปีที่แล้วเน้นเรื่องการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบสาธารณสุข ทั้ง 3 ประเทศได้ทบทวนบทเรียนการการระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอและอีโบลา พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสื่อสาร การแลกเปลี่ยนข้อมูลในยามวิกฤต รวมทั้งการเฝ้าระวังภัยจากโรคระบาดต่างๆ

ความร่วมมือดังกล่าวได้ออกเป็นแถลงการณ์ และส่งต่อให้ผู้นำ 3 ประเทศหารือต่อและรับรอง ที่การประชุมสุดยอดที่ประเทศจีน

สื่อมวลชนญี่ปุ่นตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ใช้ช่องทางนี้ เพื่อขอเปิดทางให้อพยพชาวญี่ปุ่นออกจากเมืองอู่ฮั่น ประกอบกับญี่ปุ่นกำลังเชิญประธานาธิบดีสีจิ้นผิง มาเยือนญี่ปุ่นในฐานะ “อาคันตุกะของรัฐ” ในช่วงกลางปีนี้ ทำให้รัฐบาลจีนตอบรับคำขอของญี่ปุ่นอย่างดียิ่ง

ผู้คุ้นเคยกับกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า ตั้งแต่เกิดกรณีพิพาทกับเกาหลีใต้ รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามอย่างยิ่งที่จะกระชับความสัมพันธ์กับจีน ถึงขนาดที่เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีต่างประเทศจากนายทาโร โคโนะ ที่มีท่าทีแข็งกร้าว มาเป็น นายโทชิมิตสึ โมเตกิ อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ที่ประนีประนอมกับจีน ยิ่งในช่วงนี้มีกำหนดการที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง จะเดินทางเยือนแดนอาทิตย์อุทัย เจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ประเทศจึงติดต่อกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น สื่อสารได้รวดเร็ว

ความร่วมมือและไมตรีจิตครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้จีนฝ่าวิกฤตไวรัสมรณะ แต่ยังปูทางสำหรับการเดินทางเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการครั้งแรกของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และสมานรอยร้าวทางประวัติศาสตร์ระหว่างกัน เพื่อสร้าง “สามก๊กยุคใหม่” ที่ไม่รบพุ่ง แต่ร่วมมือกัน ตามที่นายชินโซ อาเบะ ได้เคยประกาศไว้.