หากย้อนดูพฤติกรรมทางสังคมที่อาจเปลี่ยนไป แม้สถานการณ์โควิด-19 จะหาย ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการออกไปใช้พื้นที่ส่วนรวมร่วมกับผู้อื่น เพราะด้วยสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า ที่กระจายไปทั่วประเทศไทย และทั่วโลก ส่งผลให้ทุกหน่วยงานต้องออกมาตรการป้องกัน จึงส่งผลให้หลายคนต้องปรับตัวในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งในเรื่องการทำงาน การต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม จนเกิดเป็นความเคยชิน แต่จะมีสิ่งไหนเปลี่ยนไป และสิ่งไหนต้องเรียนรู้ ตามเรามาได้เลยครับ
การใช้ชีวิตประจำวัน
เนื่องจากทุกคนยังคงต้องดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง นอกจากต้องสวมหน้ากากอนามัย และพกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือแล้วนั้น Social distancing หรือ การเว้นระยะห่างทางสังคม ถือเป็นเรื่องสำคัญ และจำเป็น เนื่องจากไวรัสนั้น สามารถติดต่อผ่านละอองขนาดเล็ก ที่มาจากการไอ หรือจามได้ ดังนั้นหากอยู่ใกล้ชิดจนเกินไป อาจสูดเอาไวรัส เข้าร่างกายได้
การซื้อของออนไลน์
จากความจำเป็น ที่ใครหลายคนต้องกักตัวเองอยู่กับบ้านเป็นเวลานาน หรือการประกาศปิดห้าง ปิดร้านค้า ทำให้หาซื้อของใช้จำเป็นได้ยาก และนั่นเป็นเหตุให้ผู้บริโภคหันมาซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น นอกจากจะสะดวกแล้ว ยังส่งตรงถึงหน้าบ้านเราอีกด้วย โดยที่คุณไม่ต้องออกเดินทางไปข้างนอก เพื่อให้เสี่ยงต่อการรับเชื้ออีกด้วย
เข้าบ้านก่อน 4 ทุ่ม
พฤติกรรมนี้ อาจเป็นผลมาจากการประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน หรือที่หลายคนเรียกว่า เคอร์ฟิว โดยมีการห้ามออกจากเคหสถานหลัง 22.00-04.00 น. เพื่อลดการระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมานี้ ดังนั้นจึงทำให้หลายครอบครัว มีเวลาใช้ร่วมกันมากขึ้น จึงเป็นที่แน่นอนว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 แล้วนั้น หลายคนอาจเริ่มชินกับการอยู่บ้านมากกว่า
งดปาร์ตี้ สังสรรค์
อย่างที่เห็นกันอยู่แล้วว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ในไทยนั้น จะติดกันแบบเป็นกลุ่มเป็นก้อน นอกจากที่สนามมวยแล้ว ยังมาจากสถานบันเทิง ด้วยการดื่มแอลกอฮอล์แก้วเดียวกัน และนั่งรวมกันในที่แออัดเป็นเวลานาน ซึ่งผลจากการปิดสถานบันเทิง ที่ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 แต่แม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายแล้ว แต่เรื่องการงดปาร์ตี้ สังสรรค์ ยังถือเป็นเรื่องที่จำเป็นอยู่ เนื่องจาก เราไม่รู้เลยว่า ในสถานที่ดังกล่าวนั้น จะมีผู้ที่มีเชื้อโควิด-19 อยู่ด้วยหรือป่าว
ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
ในช่วงวิกฤติโควิด-19 จะสังเกตเห็นได้ว่า ผู้คนหันมาสนใจในเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น เริ่มสังเกตอาการตัวเอง หรือในบางคนอาจถึงขั้นวิตก ไม่อยากประมาท จึงหันมาเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงขึ้น ทั้งเรื่องอาหารการกิน กินร้อน ช้อนตัวเอง ล้างมือ ออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งการทำประกันชีวิต
